บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด ส่งมอบยาแอนติบอดีออกฤทธิ์ยาวแบบผสม AZD7442 (ปริมาณตัวยา tixagevimab และ cilgavimab อย่างละ 150 มก. ต่อ 1 ยูนิต) หรือ LAAB ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปรอบที่สอง จำนวน 41,575 ยูนิต ให้กับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในเดือนก.ย.
การส่งมอบในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่มีการจัดสรรยา LAAB จำนวนกว่า 7,000 ยูนิต ในเดือนก.ค. ให้กับกลุ่มผู้ป่วยไตวายระยะสุดท้ายเป็นกลุ่มแรก ทั้งนี้ แอสตร้าเซนเนก้าจะทำการจัดหาและส่งมอบยา LAAB เพิ่มอีกจำนวน 209,000 ยูนิต ให้แก่ประเทศไทยภายในสิ้นปีนี้ ตามสัญญาการจัดซื้อซึ่งแอสตร้าเซนเนก้า และกรมควบคุมโรค ได้ร่วมลงนามเมื่อต้นเดือนก.ค. ที่ผ่านมา
สำหรับยา LAAB ของแอสตร้าเซนเนก้าที่ส่งมอบในรอบนี้ จะนำไปจัดสรรและใช้สำหรับการป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 ในกลุ่มผู้ใหญ่และวัยรุ่น (อายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป และมีน้ำหนักตัวอย่างน้อย 40 กิโลกรัม) ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง และมีการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันต่อวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไม่เพียงพอ หรือผู้ป่วยที่ไม่สามารถรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับประเทศไทยในการต่อสู้กับโควิด-19 ที่กำลังดำเนินอยู่ในปัจจุบัน
นายเจมส์ ทีก ประธาน บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ยาแอนติบอดีออกฤทธิ์ยาวแบบผสม หรือ LAAB เป็นภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปที่จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการช่วยป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับประชากรกลุ่มเปราะบางในประเทศไทย เช่น ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องซึ่งมีการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันต่อวัคซีนไม่เพียงพอ แอสตร้าเซนเนก้าให้ความร่วมมือและสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุขในการดำเนินตามแผนการสร้างภูมิคุ้มกันให้ครอบคลุมประชาชนทั่วประเทศ เราจึงนำเสนอทางเลือกให้กับกลุ่มผู้มีความเสี่ยงสูงต่อการเจ็บป่วยรุนแรงจากโควิด-19 ซึ่งเกิดจากสายพันธุ์โอมิครอน ตอกย้ำความมุ่งมั่นของแอสตร้าเซนเนก้าที่จะดูแลปกป้องทุกคนให้ปลอดภัยจากการโรคระบาดนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ก.ย. 65)
Tags: COVID-19, LAAB, แอนติบอดี, แอสตร้าเซนเนก้า, โควิด-19