ศาลแพ่ง พิพากษายกฟ้องในคดีที่กลุ่มนักศึกษา 7 คน ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ, พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข, สำนักนายกรัฐมนตรี, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงการคลัง เป็นจำเลยที่ 1-6 กรณีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร ช่วงวันที่ 15-22 ต.ค.63 เนื่องจากเห็นว่าเป็นการใช้อำนาจและหน้าที่เพื่อรักษาความมั่นคงของรัฐ ส่วนการสลายการชุมนุมในช่วงวันที่ 14-16 ต.ค.63 ไม่ได้เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ และสมเหตุสมผล ส่วนการสลายการชุมนุมที่แยกปทุมวัน เนื่องจากเป็นพื้นที่ของบุคคลสำคัญจึงต้องรักษาความปลอดภัย
โดยโจทก์ฟ้องว่า การที่จำเลยร่วมกันประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงดังกล่าวเป็นการประกาศโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีสาเหตุในการประกาศเพียงพอ เปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่รัฐใช้อำนาจตามอำเภอใจในการสลายการชุมนุม ประกาศปิดสถานที่และระบบขนส่งมวลชน จับกุมประชาชน สื่อมวลชน และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงห้ามการเสนอข่าวสารของสื่อมวลชน โดยขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงและประกาศที่เกี่ยวเนื่อง พร้อมชดเชยค่าเสียหายแก่โจทก์ทั้งเจ็ดคน คนละ 500,000 บาท รวมเป็นค่าเสียหาย 3.5 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปีนับตั้งแต่วันฟ้อง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ก.ย. 65)
Tags: lifestyle, ชุมนุม, ประยุทธ์ จันทร์โอชา, ประวิตร วงษ์สุวรรณ, พ.ร.ก.ฉุกเฉิน, ม็อบ, ศาลแพ่ง, สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข