นายพงศ์ศักดิ์ พฤกษ์ไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บมจ.ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (TEGH) เปิดเผยว่า การจองซื้อหุ้นไอพีโอของบริษัทฯ จำนวน 270 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (Par Value) 1.00 บาทต่อหุ้น ในราคาหุ้นละ 4.80 บาท ระหว่างวันที่ 21-23 ก.ย.65 ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก ทั้งสำหรับนักลงทุนทั่วไปและนักลงทุนสถาบัน โดยสามารถขายได้ทั้งหมดตามที่จัดสรร โดยนักลงทุนมั่นใจปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ ในฐานะเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายยางธรรมชาติ และน้ำมันปาล์มดิบรายใหญ่ในภาคตะวันออก และผู้ผลิตพลังงานทดแทน ประเภทพลังงานชีวภาพแบบครบวงจรรายใหญ่ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตด้วยแผนการขยายกำลังการผลิตสำหรับทุกธุรกิจ
นายดิถดนัย สังขะรมย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ กล่าวว่า การที่หุ้น ของบริษัทฯ ได้รับความสนใจจากนักลงทุน เนื่องจากการกำหนดราคาหุ้นอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) เท่ากับ 7.7 เท่า โดยบริษัทฯ เตรียมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร หมวดธุรกิจการเกษตร ในวันที่ 30 ก.ย.65
นายเฉลิม โกกนุทาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TEGH เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทฯ มีวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจ คือ เป็นพันธมิตรทางธุรกิจระดับโลกที่สร้างห่วงโซ่คุณค่าที่ยั่งยืน โดยมุ่งมั่นที่จะพัฒนาองค์กรไปสู่การเติบโตแบบยั่งยืนที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกกลุ่ม โดยภายหลังจากการระดมทุนครั้งนี้ กลุ่มบริษัทฯ มีแผนขยายกำลังการผลิต เพื่อก้าวสู่ความเป็นผู้นำในการผลิตยางแท่ง Premium Quality ของประเทศ โดยตั้งเป้าก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตยางแท่ง 5 อันดับแรก (Top 5) ของประเทศ ด้วยการขยายกำลังการผลิตยางแท่ง เป็น 416,494 ตันต่อปี ภายในปี 67 รองรับแนวโน้มความต้องการยางแท่งที่จะเพิ่มขึ้นจากการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ในอนาคต
“ปัจจุบันมีผู้ผลิตยางล้อจากประเทศจีนหลายรายได้เข้ามาลงทุนขยายฐานการผลิตในพื้นที่ EEC มากขึ้น เปิดโอกาสให้กลุ่มบริษัทฯ สามารถขยายฐานลูกค้าผลิตภัณฑ์ยางแท่งของกลุ่มบริษัทฯ ไปยังกลุ่มลูกค้าดังกล่าวได้เพิ่มเติมจากเดิมซึ่งยังมีมูลค่าไม่มาก บริษัทฯ เชื่อว่าด้วยสินค้าที่มีคุณภาพ มาตรฐานสูงและมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับจากผู้ผลิตยางล้อชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ จะทำให้สินค้าของกลุ่มบริษัทฯ เป็นที่ยอมรับในกลุ่มผู้ผลิตยางล้อในประเทศจีนซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศผู้ผลิตยางล้อรายใหญ่ของโลก” นายเฉลิม กล่าว
นางสาวสินีนุช โกกนุทาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ TEGH กล่าวว่า นอกจากแผนการกำลังการผลิตของธุรกิจยางธรรมชาติแล้ว บริษัทฯ ยังมีแผนขยายกำลังการผลิตของธุรกิจน้ำมันปาล์มดิบ จาก ณ วันที่ 1 ส.ค.65 ซึ่งกลุ่มบริษัทฯ มีกำลังการผลิตสูงสุดสำหรับผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์มดิบรวม 473,040 ตันทะลายปาล์มต่อปี เป็นมีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 735,840 ตันทะลายปาล์มต่อปี เพิ่มขึ้น 262,800 ตันทะลายปาล์มต่อปี หรือเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นร้อยละ 55.56 โดยโครงการดังกล่าวคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในไตรมาสที่ 1/66 และคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาสที่ 4/66
นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทฯ ยังมีโครงการขยายกำลังการผลิตก๊าซชีวภาพ โซน 3 ซึ่งหากดำเนินการแล้วเสร็จจะส่งผลให้มีกำลังการผลิตสูงสุดสำหรับก๊าซชีวภาพเพิ่มขึ้น 43.80 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี เป็น 67.00 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี หรือเพิ่มขึ้น 190.43% ซึ่งจากแผนการขยายการลงทุนดังกล่าว จะช่วยสนับสนุนการให้บริษัทฯเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ก.ย. 65)
Tags: EEC, IPO, SET, TEGH, ดิถดนัย สังขะรมย์, พงศ์ศักดิ์ พฤกษ์ไพศาล, สินีนุช โกกนุทาภรณ์, หุ้นไทย, หุ้นไอพีโอ, เฉลิม โกกนุทาภรณ์, ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์