สิงคโปร์แซงหน้าฮ่องกงขึ้นเป็นศูนย์กลางการเงินอันดับหนึ่งของเอเชียแล้วในขณะนี้ และผงาดขึ้นเป็นศูนย์กลางการเงินอันดับ 3 ของโลก
Global Financial Centres Index (GFCI) จัดอันดับให้มหานครนิวยอร์กของสหรัฐเป็นศูนย์กลางการเงินอันดับ 1 ของโลก รองลงมาได้แก่กรุงลอนดอนของอังกฤษอยู่ที่อันดับ 2 ส่วนสิงคโปร์ขยับขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 3 และฮ่องกงหล่นลงไปอยู่ที่อันดับ 4 ของโลก เนื่องจากผลกระทบของการใช้มาตรการเข้มงวดในการควบคุมโรคโควิด-19 และปัญหาการย้ายถิ่นฐานของบุคลากรที่มีทักษะสูง ขณะที่เมืองซานฟรานซิสโกของสหรัฐขยับขึ้นมาอยู่ใน 5 อันดับเมืองที่เป็นศูนย์กลางการเงินของโลก
ที่ผ่านมานั้น ฮ่องกงเผชิญกับความยากลำบากในการพลิกฟื้นสถานะของการเป็นศูนย์กลางการเงินระดับโลก เนื่องจากฮ่องกงจำเป็นต้องดำเนินการตามแนวทางของจีนในการควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ให้ลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำที่สุด สวนทางกับประเทศอื่น ๆ ในโลกที่เริ่มเปิดพรมแดน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า สิงคโปร์มีแนวโน้มที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวจำนวนมากกว่า 4 ล้านคนในปี 2565 นอกจากนี้ การที่สิงคโปร์จะเป็นเจ้าภาพจัดงานสำคัญต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงการประชุม Milken Institute Asia Summit, การประชุม Forbes Global CEO Conference และการแข่งขัน Singapore Grand Prix จะช่วยยกสถานะของสิงคโปร์ให้เป็นจุดหมายปลายทางในการเดินทาง
ส่วนเมืองเซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง และเซินเจิ้นของจีนยังคงติดโผอันดับ 10 แรกของ GFCI แม้ว่าการใช้มาตรการเข้มงวดในการควบคุมโรคโควิด-19 ได้ส่งผลให้จีนถูกตัดขาดจากโลกภายนอกก็ตาม
ทั้งนี้ GFCI ได้จัดอันดับ 20 เมืองที่เป็นศูนย์กลางการเงินชั้นนำของโลก ดังนี้:
1. นิวยอร์ก – สหรัฐ
2. ลอนดอน – อังกฤษ
3. สิงคโปร์
4. ฮ่องกง
5. ซานฟรานซิสโก – สหรัฐ
6. เซี่ยงไฮ้ – จีน
7. ลอสแอนเจลิส – สหรัฐ
8. ปักกิ่ง – จีน
9. เซินเจิ้น – จีน
10. ปารีส – ฝรั่งเศส
11. โซล – เกาหลีใต้
12. ชิคาโก – สหรัฐ
13. ซิดนีย์ – ออสเตรเลีย
14. บอสตัน – สหรัฐ
15. วอชิงตัน ดีซี – สหรัฐ
16. โตเกียว – ญี่ปุ่น
17. ดูไบ – สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
18. แฟรงก์เฟิร์ต – เยอรมนี
19. อัมสเตอร์ดัม – เนเธอร์แลนด์
20. เจนีวา – สวิตเซอร์แลนด์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ก.ย. 65)
Tags: ศูนย์กลางการเงินเอเชีย, ศูนย์กลางการเงินโลก, สิงคโปร์, ฮ่องกง, ฮับการเงิน