นายกฤชนนท์ อัยยปัญญา เลขานุการ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบการการรั่วไหลของสารเคมีจากโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ว่า การตรวจสอบหาสาเหตุของการรั่วไหลนั้น จะต้องมีการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนมาตรการกำกับดูแลในเบื้องต้นนั้น ทางอุตสาหกรรมจังหวัดได้สั่งการให้ทางโรงงานหยุดการผลิตแล้ว จนกว่าจะมีการปรับปรุงแก้ไขให้แล้วเสร็จ และสามารถมั่นใจได้ว่ากระบวนการผลิตจะมีความปลอดภัย 100% รวมถึงแผนจัดการความเสี่ยงและมาตรการป้องกันเหตุที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย
ทั้งนี้ หากประชาชนได้รับผลกระทบต่อสุขภาพจากสารเคมีที่รั่วไหลในครั้งนี้ ทางโรงงานจะต้องรับผิดชอบทั้งหมด แต่ถ้าปฏิเสธความรับผิดชอบ ทางกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมจะติดตามเรียกร้องความเสียหายให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างแน่นอน
ด้าน นายวันชัย พนมชัย อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เปิดเผยว่า พื้นที่บริเวณโดยรอบโรงงานฯ มีลักษณะเป็นทุ่งนาล้อมรอบ ตั้งอยู่ห่างชุมชนราว 400 เมตร โดยจากการสอบถามข้อมูลทราบว่า ตั้งแต่เวลา 06.15 น. มีผู้ได้รับกลิ่นเหม็นเป็นวงกว้าง ขณะเกิดเหตุมีไอระเหยพุ่งสูง ไม่มีควัน ไม่มีประกายไฟ เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
ส่วนมูลค่าความเสียหาย ยังไม่สามารถตรวจสอบหรือประเมินมูลค่า คาดเหตุเกิดจากการรั่วไหลของสารเคมี แต่โรงงานสามารถปิดวาล์วจุดที่เกิดการรั่วไหลในเวลาประมาณ 06.35 น. และควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ แต่สารเคมียังคงส่งกลิ่นกระจายเป็นวงกว้างในพื้นที่ รวมถึงเขตรอยต่อกรุงเทพฯ
ทั้งนี้ กรอ. ได้ส่งกลุ่มปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็วไปวัดคุณภาพอากาศบริเวณโรงงาน และรอบๆ โรงงานรัศมี 1 กิโลเมตร เมื่อเวลา 14.00 น. พบค่าสารเบนซีน ไม่เกิน 1 ppm ซึ่งยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่ต้องไม่เกิน 5 ppm พร้อมทั้งเก็บตัวอย่างน้ำจากลำน้ำสาธารณะรัศมี 10 กิโลเมตร รอบโรงงานเพื่อตรวจวัดหาค่าสารปนเปื้อนด้วยแล้ว
“แนะนำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียง หากยังได้กลิ่นอยู่ ให้ใส่หน้ากากอนามัยหรือใส่อุปกรณ์ป้องกัน และควรอยู่ในที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก พร้อมทั้งสั่งการให้โรงงานดูแลผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ด้วย แต่จากการประเมินสถานการณ์ทั่วไป และค่าอากาศที่วัดได้โดยรอบโรงงาน ไม่น่ามีปัญหาอะไรแล้ว อย่างไรก็ดี หลังจากได้ตรวจสอบร่วมกับสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนครปฐมแล้ว ได้ให้อุตสาหกรรมจังหวัด สั่งหยุดโรงงานเป็นการชั่วคราวไว้ก่อน ถ้าตรวจสอบโดยละเอียดเรียบร้อย และทราบสาเหตุแห่งการรั่วไหลชัดเจน พร้อมทั้งมีการแก้ไขจนเกิดความปลอดภัยได้มาตรฐาน จึงจะสามารถดำเนินการต่อไปได้”
นายวันชัย กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ก.ย. 65)
