ญี่ปุ่นเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตรา (FX) เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2541 เพื่อแก้ปัญหาเงินเยนร่วงหนัก หลังถูกกดดันจากกรณีที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษ สวนทางกับการเร่งคุมเข้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของญี่ปุ่นและสหรัฐขยับกว้างมากยิ่งขึ้น
นายมาซาโตะ คันดะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังฝ่ายกิจการต่างประเทศของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ (22 ก.ย.) ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นได้เข้าแทรงแซงตลาด FX เนื่องจากเงินเยนอ่อนค่าลงเพียงฝั่งเดียวแบบฉับพลัน โดยการเข้าแทรกแซงครั้งล่าสุดนี้ทำให้เงินเยนแข็งค่าขึ้น 1.1% แตะที่ 142.48 เยนต่อดอลลาร์ หลังจากที่เงินเยนอ่อนค่าลงหลุดระดับ 145 เยนต่อดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2541 เนื่องจาก BOJ ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเอาไว้ที่ระดับต่ำเป็นพิเศษในวันนี้ หลังจากที่เฟดประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เมื่อวานนี้ (21 ก.ย.)
ทางการญี่ปุ่นได้ยกระดับการเข้าแทรกแซงโดยวาจาตลอดช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้าการเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราเพียงไม่กี่ชั่วโมง นายคันดะเพิ่งออกมากล่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นพร้อมที่จะเข้าดำเนินการแทรกแซงได้ตลอดเวลา และอาจทำการแทรกแซงแบบไม่แสดงตัว โดยก่อนหน้านี้ BOJ ได้ทำการตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนในตลาด FX ในเดือนนี้ ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่หลายฝ่ายมองว่าเป็นการเตรียมการก่อนเข้าแทรกแซงโดยตรง
อนึ่ง การแทรกแซงสกุลเงินนับเป็นความเคลื่อนไหวที่ไม่ปกติสำหรับญี่ปุ่น โดยญี่ปุ่นถูกคู่ค้าวิจารณ์มาอย่างยาวนานว่า การปล่อยให้เงินเยนอ่อนค่าของญี่ปุ่นนั้นเป็นไปเพื่อส่งเสริมผลประโยชน์ให้กับกลุ่มผู้ส่งออกญี่ปุ่น
ทั้งนี้ ครั้งสุดท้ายที่รัฐบาลญี่ปุ่นผลักดันให้สกุลเงินเยนแข็งค่าด้วยการเข้าแทรกแซงโดยตรงเกิดขึ้นในช่วงวิกฤตการณ์การเงินในเอเชียเมื่อปี 2541 โดยในตอนนั้นสกุลเงินเยนอ่อนค่าสู่ระดับ 146 เยนต่อดอลลาร์ และเป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจที่เปราะบาง นอกจากนี้ ญี่ปุ่นเคยเข้าแทรกแซงตลาดเงินในช่วงที่เยนอยู่ที่ระดับประมาณ 130 เยนต่อดอลลาร์ในปี 2554 แต่ครั้งนั้นเป็นการเข้าแทรกแซงเพื่อให้เงินเยนอ่อนค่าลง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ก.ย. 65)
Tags: กระทรวงการคลัง, ธนาคารกลางญี่ปุ่น, เงินเยน, แทรกแซงค่าเงิน