“พาวเวล” ลั่นยังไม่คิดลดดอกเบี้ยจนกว่าบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2%

นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุในการแถลงข่าวภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายการเงินในวันพุธ (21 ก.ย.) ว่า เขาจะไม่พิจารณาเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะมั่นใจว่าตัวเลขเงินเฟ้อปรับตัวลงสู่ระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2%

“คำพูดของผมในการแถลงข่าววันนี้ ไม่ต่างไปจากสิ่งที่ผมพูดทั้งหมดในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล” นายพาวเวลกล่าวกับผู้สื่อข่าว โดยในการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮลเมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น นายพาวเวลได้ส่งสัญญาณว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปจนกว่าจะมั่นใจว่าภารกิจในการต่อสู้กับเงินเฟ้อประสบผลสำเร็จ

ทั้งนี้ นายพาวเวลกล่าวว่า “คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) เห็นพ้องที่จะทำให้อัตราเงินเฟ้อลดลง และจะเดินหน้าปรับลดอัตราเงินเฟ้อต่อไปจนกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจดังกล่าว ดังนั้น แนวทางที่เราคิดในขณะนี้คือ การมุ่งมั่นให้อัตราเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% ซึ่งการทำให้ภารกิจดังกล่าวลุล่วงได้นั้น เศรษฐกิจสหรัฐอาจจะขยายตัวต่ำกว่าแนวโน้มที่ควรจะเป็น และตลาดแรงงานอาจจะชะลอตัวลง”

ในการประชุมครั้งนี้ คณะกรรมการเฟดคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวเพียง 0.2% ในปีนี้ ลดลงจากระดับ 1.7% ที่เฟดคาดการณ์ไว้ในเดือนมี.ค. ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเฟดมีความเชื่อมั่นน้อยลงในการพยุงเศรษฐกิจให้ชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป (soft landing) ท่ามกลางภาวะอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น

นอกจากนี้ เฟดยังคาดว่า อัตราว่างงานจะแตะระดับ 3.8% ในสิ้นปีนี้ และเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.4% ทั้งในปี 2566 และ 2567 ก่อนที่จะชะลอตัวลงสู่ระดับ 4.3% ในปี 2568 ขณะที่อัตราว่างงานระยะยาวอยู่ที่ 4.0%

“ตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจขยายตัวในอัตราที่ต่ำมาก และอาจทำให้อัตราว่างงานปรับตัวสูงขึ้นด้วย แต่ผมคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่เราจำเป็นต้องเผชิญ หากเราต้องการสร้างฐานเศรษฐกิจของเราขึ้นมาใหม่ และบุกเบิกแนวทางที่จะนำไปสู่การมีตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งมากขึ้นในวันข้างหน้า เราก็จำเป็นต้องจัดการกับเงินเฟ้อให้อยู่หมัด ซึ่งผมคาดหวังว่าการดำเนินแนวทางเช่นนี้จะไม่ทำให้เราเจ็บปวด” นายพาวเวลกล่าว

“ผมทราบดีว่า การฟื้นฟูเสถียรภาพของเงินเฟ้อ ควบคู่ไปกับอัตราว่างงานที่เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยและการพยุงเศรษฐกิจให้ชะลอตัวลงแบบค่อยเป็นค่อยไปนั้น ถือเป็นความท้าทายอย่างมาก ไม่มีใครรู้หรอกว่ากระบวนการนี้จะนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือไม่ และไม่มีใครรู้ว่าภาวะถดถอยจะรุนแรงเพียงใด และผมยอมรับว่าโอกาสที่เศรษฐกิจจะอยู่ในลักษณะซอฟต์แลนดิ้งนั้นจะลดน้อยลง หากเฟดจำเป็นต้องคุมเข้มนโยบายการเงินในระดับที่รุนแรงขึ้นและใช้เวลานานขึ้น” นายพาวเวลกล่าว

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ก.ย. 65)

Tags: , , , , , , ,
Back to Top