นายปสันน สวัสดิ์บุรี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ (NWR) คาดว่า รายได้ในช่วงครึ่งหลังปี 65 สูงกว่าครึ่งปีแรก จากโครงการใหม่ที่ประมูลมาได้ โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษบูรณะ ทำให้รายได้ในไตรมาส 3 และไตรมาส 4 นี้เพิ่มขึ้นมาและทั้งปี 65 คาดว่าจะเติบโตได้ถึง 50% จากต้นปีคาดว่าจะเติบโตราว 30-50% โดยปีก่อนมีรายได้ 1.12 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ รายได้ในครึ่งปีแรกมีสัดส่วน 40% ของทั้งปี ส่วนอีก 60% จะรับรู้ในครึ่งปีหลังปี 65
“ปี 65 รายได้โตอย่างมากมาจากงานเดิมที่เริ่มกลับมาทำงานได้แล้ว และในครึ่งปีหลังปีนี้รายได้เติบโตมากเป็นพิเศษ แต่ในปี 66 อาจจะโตไม่เท่าปีนี้ อาจจะโต 10%…ปีนี้รายได้เติบโตดี มาร์จิ้นก็ดี ปีนี้ เนาวรัตน์พัฒนาการ มีผลประกอบการดีกว่าปีที่แล้ว”นายปสันน กล่าว
ปัจจุบัน บริษัทมีงานในมือ (Backlog) ใกล้ 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในช่วง 3-4 ปี โดยในไตรมาส 2/65 ได้งานใหม่ 10,846 ล้านบาท ซึ่งงานใหม่มีอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ดีขึ้น โดยในครึ่งปีหลังปีนี้คาดมี GP ใกล้ 6% ส่วนหนึ่งงานใหม่มี GP ดีขึ้น และงานที่มี GP ต่ำเกือบหมดในปีนี้ งานที่เหลือมีไม่มาก และไม่กระทบกับ GP ภาพรวมของบริษัท
ส่วนปัจจัยค่าแรงขั้นต่ำที่จะปรับขึ้นในเดือน ต.ค.นี้ นายปสันน กล่าว่า สัดส่วนต้นทุนค่าแรงของบริษัทไม่สูงมากนัก โดยอยู่ที่ประมาณ 15-20% ของต้นทุนรวม จึงไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งแรงงานส่วนใหญ่ของบริษัทเป็นแรงงานฝีมือที่มีค่าแรงสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำอยู่แล้ว ขณะที่ค่า K ก็มีส่วนช่วยต้นทุนได้บ้าง หรือกรณีที่ค่าวัสดุก่อสร้างปรับตัวสูงขึ้น ก็ได้ค่า K มาชดเชย
ขณะที่ราคาเหล็กปัจจุบันก็ปรับตัวลงมาที่ 20 กว่าบาท/กก. จากก่อนหน้าปรับึ้นไปใกล้ 30 บาท/กก.แต่หากราคาเหล็กปรับตัวขึ้นอีกบริษัทจะสต็อกเหล็กไว้ และเนื่องจากโครงการก่อสร้างมีระยะยาวก็น่าจะถัวเฉลี่ยราคาเหล็กให้ไม่สูงมากนัก
นายปสันน กล่าวว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดว่างานประมูลภาครัฐจะออกมาน้อย ขณะที่บริษัทรอผลประมูลที่ร่วมประมูลไปกว่า 2 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม คาดว่าในปีนี้งานใหม่ทีเข้ามาต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ 14,000 ล้านบาทแต่ถือว่าเป็นงานที่มีคุรภาพ นอกจากนี้บริษัทยังมีงานในมือสูงอยู่จึงไม่กังวล และไม่จำเป็นต้องแข่งขันราคากัน
ทั้งนี้ ภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างในปี 65 มีแนวโน้มเติบโต 4% ที่ระดับ 1.42 ล้านล้านบาท และในช่วง 3 ปีข้างหน้า (ปี 66-68) ภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างเติบโตเฉลี่ยปีละ 4% ที่จะมาจากโครงสร้างพื้นฐานใหม่ๆ ของภาครัฐ และโครงการที่อยู่อาศัย และอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ของภาคเอกชนที่คาดจะฟื้นตัว
นายปสันน กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทเตรียมเปิดขายโครงการ Baranee รังสิตคลอง 3 ซึ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยว จะเปิดขาย 1 ต.ค.65 คาดเริ่มก่อสร้างได้ในปีนี้และคาดเริ่มโอนกรรมสิทธิได้ปลายไตรมาส 1/66 -ต้นไตรมาส 2/66 และมีโครงการบ้านเดี่ยวย่านรังสิตที่จะเปิดขายในปีหน้า ส่วนโครงการคอนโดมิเนียม Aston Prime อยู่ลาซาล สุขุมวิท 107 เป็นโครงการสูง 20 ชั้น อยู่ระหว่างขอ EIA คาดว่าจะเปิดขายโครงการในปีหน้า
สำหรับบมจ.ยูทิลิตี้ บิสิเนส อัลลายแอนซ์ (UBA) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย อยู่ระหว่างการพิจารณาแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวน เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 170 ล้านหุ้น และคาดว่าจะจดทะเบียนในตลาด เอ็ม เอ ไอ ในไตรมาส 4/65
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ก.ย. 65)
Tags: NWR, ปสันน สวัสดิ์บุรี, หุ้นไทย, เนาวรัตน์พัฒนาการ