ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยในวันนี้ (20 ก.ย.) ว่า สินทรัพย์ของภาคครัวเรือนญี่ปุ่น ณ สิ้นเดือนมิ.ย.อยู่ที่ระดับ 2,007 ล้านล้านเยน (14 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้น 1.3% เมื่อเทียบรายปี และเป็นระดับสูงสุดอันดับสอง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนฟื้นตัวขึ้นอย่างช้า ๆ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
สินทรัพย์ทั้งหมดของภาคครัวเรือนญี่ปุ่นซึ่งรวมถึงเงินสด เงินฝาก และหลักทรัพย์นั้น ใกล้เคียงกับระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เคยทำไว้ในช่วงสิ้นปี 2564 ซึ่งอยู่ที่ 2,014 ล้านล้านเยน
เงินสดและเงินฝากซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของสินทรัพย์ทั้งหมดนั้น เพิ่มขึ้น 2.8% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,102 ล้านล้านเยน ส่วนสินทรัพย์ในรูปหลักทรัพย์นั้นลดลง 3.3% แตะที่ 199 ล้านล้านเยน ซึ่งสะท้อนให้เห็นราคาหุ้นที่ลดลง
BOJ ยังคงใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษ (Ultralow rate policy) เพื่อพยุงเศรษฐกิจซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ภายใต้นโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทน (Yield curve control program) นั้น BOJ ได้กำหนดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ระดับ -0.1% และกำหนดเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีไว้ที่ระดับราว 0%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ก.ย. 65)
Tags: ธนาคารกลางญี่ปุ่น, ภาคครัวเรือน, เศรษฐกิจญี่ปุ่น