
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 36.86 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก เย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 36.92 บาท/ดอลลาร์
เช้านี้เงินบาทแข็งค่าขึ้นจากท้ายตลาดเมื่อวันศุกร์ โดยคาดว่าสัปดาห์นี้ปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนรอติดตามคือ การประชุมธนาคารกลางสหรฐ (เฟด) ในกลางสัปดาห์ ซึ่งตลาดคาดว่ารอบนี้เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.75% ขณะที่วันนี้ตลาดเงินทางฝั่งอังกฤษและญี่ปุ่นหยุดทำการ ซึ่งอาจทำให้การซื้อขายเบาบาง ระหว่างวันเงินบาทอาจผันผวนได้
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 36.75 – 37.00 บาท/ดอลลาร์ ต้องติดตาม Flow จากต่าง ชาติที่จะเข้ามาในตลาดหุ้น และตลาดพันธบัตรของไทยในวันนี้ด้วย
THAI BAHT FIX 3M (16 ก.ย.) อยู่ที่ระดับ 0.86605% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.85128%
ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 143.03 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 143.30 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0007 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 0.9977 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 37.011 บาท/ดอลลาร์
- โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีมูลค่าเงินสำรองระหว่างประเทศของประเทศปรับลดลง เป็นผลมาจาก การแข็งค่าอย่างต่อเนื่องของเงินดอลลาร์ พร้อมเน้นย้ำไม่พบสัญญาณการเคลื่อนย้ายเงินทุนที่ผิดปกติ และระดับเงินสำรองฯ เมื่อเทียบต่อ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือ GDP ยังสูงกว่าหลายประเทศ
- “พิพัฒน์” เปิด “แผน 180 วัน ฟื้นประเทศ ฟื้นการท่องเที่ยว” ดูดรายได้จากการท่องเที่ยว 1.2 ล้านล้านบาท ประสาน สายการบินเปิดเส้นทางใหม่
- นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยถึงแนวโน้มธุรกิจประกันวินาศภัยในปี 2566 โดยคาดการณ์ ว่า จะมีอัตราการ เติบโตประมาณ 4.5%-5.5% เบี้ยประกันภัยรับโดยตรงรวม 282,200-287,900 ล้านบาท ส่วนในปี 2565 ประมาณการว่า จะเติบโต ประมาณ 3.5%-4.5% มีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงรวม 272,000-274,600 ล้านบาท โดยการประกันภัยแทบทุกประเภทมีแนวโน้มเติบโต เพิ่มขึ้นจากการที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย มูลค่าการส่งออกและนำเข้า สินค้าที่มีแนวโน้ม เพิ่มมากขึ้น ยอดจำหน่ายรถยนต์ที่เพิ่มมากขึ้นกว่าปีที่แล้ว
- ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 59.5 ในเดือนก.ย. จากระดับ 58.6 ในเดือนส.ค. แต่ต่ำกว่าตัว เลขเบื้องต้นที่ระดับ 60.0 ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคคาดการณ์ว่า เงินเฟ้อจะแตะระดับ 4.6% ในช่วง 1 ปีข้างหน้า โดยต่ำกว่าระดับ 4.8% ที่มีการสำรวจในเดือนที่แล้ว และเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2564
- โกลด์แมน แซคส์ ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปี 2566 ลงเหลือ 1.1% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ ระดับ 1.5% โดยระบุว่า การเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในประเทศ
- นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในสัปดาห์นี้ ข้อมูลล่าสุดจาก FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ตลาดการเงินปรับตัวรับโอกาส 82% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะ สั้น 0.75% ในวันพุธที่ 21 ก.ย.นี้ นอกจากนี้ ผลสำรวจคาดการณ์ว่า BOJ จะตรึงอัตราดอกเบี้ยเอาไว้ที่ระดับต่ำเป็นพิเศษต่อไปในการ ประชุมวันพุธนี้
- จับตาธนาคารกลางจีนเตรียมแถลงอัตราดอกเบี้ยลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปีและ 5 ปีในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ย.) ขณะ ที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจีนจะคงอัตราดอกเบี้ย LPR ไว้ที่ระดับเดิม หลังจากประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปีซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีนไว้ที่ระดับ 2.75% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะมีการรายงานในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนก.ย., ตัวเลขการ เริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนส.ค., ยอดขายบ้านมือสองเดือนส.ค., ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประชุมนโยบายการเงิน และแถลงมติอัตราดอกเบี้ย, ดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 2/2565 และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนส.ค.จากคอนเฟอเรนซ์บอร์ด เป็นต้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ก.ย. 65)
Tags: ค่าเงินบาท, เงินบาท