นายฤทธี กิจพิพิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สแกน อินเตอร์ (SCN) เปิดเผยว่า บริษัทเดินหน้าเจรจาเข้าซื้อกิจการ(M&A) และ ร่วมลงทุน (JV) ทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยธุรกิจส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจเดิมของบริษัท ซึ่งบริษัทคาดว่าจะเห็นความชัดเจนอย่างน้อย 1 ดีลในช่วงที่เหลือของปีนี้จากทั้งหมดที่เจรจากว่า 5 ราย
สำหรับทิศทางผลประกอบการในช่วงไตรมาส 3/65 คาดว่าจะทำได้ใกล้เคียงกับช่วงไตรมาส 2/65 ที่มีรายได้รวม 341.3 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 34.6 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันดิบโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ยอดขายก๊าซธรรมชาติเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้บริษัทได้รับวามสนใจจากลูกค้าใหม่อีกหลายรายให้การติดต่อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยหลักๆ ลูกค้าใหม่มีความประสงค์ต้องการปรับเปลี่ยนการใช้เชื้อเพลิงในกระบวนการผลิตมาเป็นก๊าซธรรมชาติอัดสำหรับอุตสาหกรรม (iCNG) อีกเป็นจำนวนมา
นอกจากนี้ การที่บริษัท Shizuoka Gas Company Limited หรือ SZG เข้ามาถือหุ้น 49% ในบริษัท เครือข่ายก๊าซ ไทย-ญี่ปุ่น จำกัด (Thai-Japan Gas Network หรือ TJN) ทำให้มีโอกาสอีกมากที่จะได้รับคำสั่งซื้อใหม่ๆ จากผู้ประกอบการสัญชาติญี่ปุ่นที่เข้ามาประกอบธุรกิจในไทยเพิ่มอีกมาก ปัจจุบันบริษัทมีปริมาณการจำหน่าย iCNG อยู่ที่ประมาณ 5,000 ล้านบีทียูต่อวัน (mmBTU/day) เพิ่มขึ้นจากในช่วงไตรมาส 2/65 ที่มีปริมาณการจำหน่ายอยู่ที่ประมาณ 3,000 ล้านบีทียูต่อวัน
ในส่วนของโครงการโรงไฟฟ้ามินบู เฟสที่ 2 กำลังการผลิต 50 เมกะวัตต์ คาดว่าจะสามารถสร้างแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 65 ก่อนที่จะรับรู้รายได้เข้ามาเต็มปีในปี 66 และเป็นการรับรู้รายได้เข้ามาเป็น 100 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันบริษัทสามารถรับรู้รายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่องจาก โรงไฟฟ้ามินบู เฟสที่ 1 กำลังการผลิต 50 เมกะวัตต์ จะช่วยสนับสนุนให้การเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในปี 66
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ก.ย. 65)
Tags: SCN, ผลประกอบการ, ฤทธี กิจพิพิธ, สแกน อินเตอร์, หุ้นไทย