นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยินดีต้อนรับ บมจ. เจริญอุตสาหกรรม เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร หมวดอาหารและเครื่องดื่ม โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “CH” ในวันที่ 12 กันยายน 2565
CH ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลไม้และอาหารแปรรูป แบ่งเป็น กลุ่มผลิตภัณฑ์ผลไม้อบแห้ง ปลากระป๋อง และขนมเพื่อสุขภาพ บริษัทเน้นส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศกว่า 50 ประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา แคนาดา ญี่ปุ่น สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ สาธารณรัฐประชาชนจีน อิตาลี เนเธอร์แลนด์ อินเดีย ไต้หวัน ฝรั่งเศส คูเวต สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นต้น โดยมีรูปแบบการจำหน่ายสินค้าทั้งแบบรับจ้างการผลิตตามคำสั่งซื้อของลูกค้า (OEM) จำหน่ายสินค้าเป็นแพ็คใหญ่ (Bulk Pack) ให้กับกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมและกลุ่มลูกค้าธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่ และจำหน่ายสินค้าภายใต้ตราสินค้าของบริษัท อาทิ ผลไม้อบแห้ง ภายใต้แบรนด์ EROS และ Bangkok Tasty ปลากระป๋อง ภายใต้แบรนด์ Sumaco, Eiffel Tower, Apache, Triangle และเรือรบ รวมถึง ขนมเพื่อสุขภาพ กราโนล่า (Granola) ผักและผลไม้ทอดสูญญากาศ (Vacuum Fried) ภายใต้แบรนด์ Meble
CH มีทุนชำระแล้วหลังการเสนอขาย IPO 400 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.5 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 640 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) 160 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรกระหว่างวันที่ 1-2 และ 5 กันยายน ในราคาหุ้นละ 2.34 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 374.40 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,872 ล้านบาท ทั้งนี้ ราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) เท่ากับ 17.63 เท่า
โดยมีบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ บล.ฟินันเซีย ไซรัส เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ
นายศักดา ศรีแสงนาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เจริญอุตสาหกรรม (CH) เปิดเผยว่า จากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการผลิตอาหารแปรรูปมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น ของกรรมการ ผู้บริหาร รวมถึงบุคลากรของบริษัท ทำให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้รับการยอมรับจากลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ โดยบริษัทจะก้าวสู่องค์กร 100 ปี ในปี 2568 และตั้งมั่นที่จะประกอบธุรกิจให้ยั่งยืนต่อไป
การระดมทุนและการเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ของบริษัทครั้งนี้นอกจากจะทำให้บริษัทมีเงินทุนในการปรับปรุงโรงงานผลิตสินค้า ก่อสร้างคลังสินค้าเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในการผลิต รวมถึงการเสริมสร้างสภาพคล่องซึ่งจะเพิ่มความแข็งแกร่งทั้งด้านฐานะการเงินและขีดความสามารถในการเติบโตของธุรกิจแล้ว ยังทำให้บริษัทได้เปลี่ยนจากธุรกิจครอบครัวสู่การเป็นธุรกิจที่มีระบบและการบริหารงานอย่างมืออาชีพอีกด้วย
CH มีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิโดยพิจารณาจากงบการเงินเฉพาะกิจการภายหลังหักเงินสำรองต่างๆ ตามที่กฎหมายกำหนดและตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับ ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ โดยจะขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานและฐานะการเงิน สภาพคล่อง แผนการขยายธุรกิจ ความจำเป็นและความเหมาะสมอื่นใดในอนาคตและปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้น 10 ลำดับแรกของบริษัทภายหลัง IPO ประกอบด้วย บริษัท ซีเอช แฟมิลี่ จำกัด และกลุ่มผู้ก่อตั้ง ซึ่งถือหุ้นรวมกัน 54.87%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ก.ย. 65)
Tags: CH, เจริญอุตสาหกรรม, แมนพงศ์ เสนาณรงค์