เงินบาทเปิด 36.46 แข็งค่าสวนทางภูมิภาค ให้กรอบวันนี้ 36.35-36.65 จับตาประชุม ECB

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 36.46 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจาก ปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 36.72 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากเมื่อคืนนี้ราคาน้ำมันลง ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐย่อลง ด้านสกุล เงินภูมิภาคเช้านี้ส่วนใหญ่อ่อนค่าเล็กน้อย

“สกุลเงินเยนยังคงทำนิวไฮในรอบ 24 ปี โดยเมื่อคืนนี้ขึ้นไปสูงสุดที่ 144.99 เยน/ดอลลาร์ เกือบถึง 145 แต่ก็ย่อลง มาก่อน” นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 36.35 – 36.65 บาท/ดอลลาร์ ให้กรอบเปิดกว้าง วันนี้รอติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และถ้อยแถลงของ นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใน การประชุมประจำปีของสถาบันคาโต (Cato Institute) ซึ่งเป็นรอบสุดท้ายก่อนการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ เฟด (FOMC)

THAI BAHT FIX 3M (7 ก.ย.) อยู่ที่ระดับ 0.89690% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.98574%

* ปัจจัยสำคัญ

– เงินเยนอยู่ที่ระดับ 144.11 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นที่ระดับ 144.12 เยน/ดอลลาร์

– เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 0.9988 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นที่ระดับ 0.9913 ดอลลาร์/ยูโร

– อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 36.753 บาท/ดอลลาร์

– “เฟทโก้ เผย ดัชนีเชื่อมั่นนักลงทุน 3 เดือนข้างหน้าเพิ่มขึ้น แนะ จับตาโควิด-เงินเฟ้อ-ผลการวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญต่อ วาระการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี มีผลกระทบต่อ การฟื้นตัวเศรษฐกิจ

– กกร.ชี้เงินเฟ้อยังเป็นปัญหาหลัก จากแรงกดดันค่าเงินบาทอ่อน-น้ำมันแพง-ค่าแรงเพิ่ม ห่วงภาพรวมเศรษฐกิจส่อแววดิ่ง แต่ยังเชื่อมั่นการเปิดประเทศช่วยพยุง คงเป้าจีดีพีปีนี้ 2.75-.5% แนะปรับค่าไฟ 2 รอบ บรรเทาผลกระทบ ปชช.

– บาทอ่อนไม่ช่วยพยุง’ทอง’ราคารับซื้อในประเทศทดสอบ 28,000 บาท ครั้งแรกรอบ 7 เดือน นับตั้งแต่ปลาย ก.พ.65 เหตุหลายปัจจัยไม่เอื้อราคาไปต่อ ดอลลาร์แข็งค่า ดอกเบี้ยพันธบัตร 10 ปีสหรัฐพุ่ง เฟดส่อปรับดอกเบี้ยขึ้นอีก

– ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (7 ก.ย.) โดยได้แรงหนุน จากการคาดการณ์ที่ว่า ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันนี้

– สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (7 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์และการร่วงลงของ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ นอกจากนี้ ความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกถดถอยยังทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ ที่ปลอดภัย

– ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจใน 12 เขตของสหรัฐหรือ Beige Book ในวันพุธ (7 ก.ย.) โดยระบุว่า แนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจอ่อนแอลงในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา แม้ว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัด เงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวลง หลังจากพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ก่อนหน้านั้น

– นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในตลาดวอลล์สตรีทคาดการณ์ว่า การที่เฟดประกาศสงครามกับเงินเฟ้อด้วยการเร่งปรับขึ้นอัตรา ดอกเบี้ยนั้น จะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย เนื่องจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยจะส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมของผู้บริโภคและภาคธุรกิจ ปรับตัวสูงขึ้น และจะทำให้เศรษฐกิจอ่อนแรงลง เนื่องจากการขึ้นดอกเบี้ยจะกดดันให้บริษัทต่าง ๆ ต้องปรับลดการใช้จ่าย

– ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 1.4% ในไตรมาส 3

– ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในวันนี้ อียูจะประกาศธนาคารกลางยุโรป (ECB) แถลงมติอัตราดอกเบี้ย และสหรัฐฯ จะเปิดเผย จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)

– นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีขึ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ขณะเดียวกันมีการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% อีกครั้งในเดือนนี้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ก.ย. 65)

Tags: ,
Back to Top