นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข เป็นประธานในการเตรียมลงนามสัญญาจัดหาวัคซีนโควิด-19 (ไฟเซอร์) ฝาสีแดง จำนวน 3 ล้านโดส สำหรับฉีดเด็กอายุ 6 เดือนถึงอายุน้อยกว่า 5 ปี ระหว่างกรมควบคุมโรค และบริษัท ไฟเซอร์ประเทศไทย และอินโดไชน่า
นายอนุทิน กล่าวว่า วัคซีนไฟเซอร์สำหรับเด็กเล็กที่จัดหา 3 ล้านโดสนั้น บริษัทจะเริ่มทยอยส่งมอบให้ประเทศไทยได้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 เป็นต้นไป ซึ่งนับว่าเร็วเป็นพิเศษ เนื่องจากกรมควบคุมโรคมีสัญญาการสั่งซื้อที่ได้รับการอนุมัติจากครม.อยู่แล้ว เพียงแต่เพิ่มชนิดของวัคซีนที่มีการผลิตเพื่อฉีดเด็กอายุ 6 เดือนถึงอายุน้อยกว่า 5 ปีโดยเฉพาะ
ทั้งนี้ กลุ่มเด็กเล็กมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและแพร่เชื้อโควิดสูง เนื่องจากเป็นวัยที่ยังไม่สามารถดูแลป้องกันตนเองได้ การที่เด็กได้รับวัคซีนจะช่วยลดโอกาสของการเจ็บป่วยและลดการแพร่เชื้อไปยังผู้สูงอายุในครอบครัวอีกด้วย
ส่วนแนวทางบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 ในปี 66 ต้องรอการพิจารณาจากคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ว่าจำเป็นต้องฉีดกระตุ้นหรือไม่ ต้องเน้นกลุ่มเสี่ยงใด จำนวนเท่าใด ซึ่งรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุน
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ เป็นช่วงที่มีการปรับโรคโควิด-19 จากโรคติดต่ออันตรายเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง และการเปลี่ยนผ่านผู้บริหารเข้ารับตำแหน่งใหม่ ซึ่งยืนยันว่าการดำเนินงานต่างๆ จะไม่มีรอยต่อและไม่มีผลกระทบต่อการบริการประชาชน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ก.ย. 65)
Tags: Pfizer, กระทรวงสาธารณสุข, วัคซีนต้านโควิด-19, วัคซีนเด็ก, อนุทิน ชาญวีรกูล, ไฟเซอร์