นายโอลิวิเยร์ บรง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มห้างสรรพสินค้าในเครือ บมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC) เปิดเผยว่า บริษัทจัดเตรียมงบลงทุนราว 1.5 หมื่นล้านบาทภายใน 5 ปี (ปี 66-70) เพื่อผลักดันยอดขายให้เติบโต 1.7 เท่า โดยจะเสริมความแข็งแกร่งธุรกิจ ด้วยการขยายสาขาใหม่ของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลและโรบินสัน รวมทั้งรีโนเวทสาขาปัจจุบัน
พร้อมทั้งพัฒนาระบบ Central App เพื่อตอกย้ำการเป็นห้างสรรพสินค้าออมนิชาแนลอันดับหนึ่งของไทยในกลุ่มพรีเมียม (The #1 Omnichannel Retailer in Premium Segment) โดยมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนยอดขายจากออมนิชาแนลเป็น 20% ของยอดขายรวม
“พันธกิจของบริษัทเพื่อการเติบโตของห้างเซ็นทรัลและโรบินสันต่อจากนี้ คือ การเป็นรีเทลที่ไม่หยุดนิ่งและพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นห้างที่ครองใจคนไทยในทุกเจเนอเรชัน พร้อมเสริมความแข็งแกร่งยืนหยัดตำแหน่งห้างออมนิชาแนลอันดับหนึ่ง ควบคู่ไปกับการเปิดสาขาใหม่ที่จะเข้ามาช่วยในการขยายฐานลูกค้าให้หลากหลาย และครอบคลุ่มหลายพื้นที่ทั่วประเทศ” นายโอลิวิเยร์ บรง กล่าว
ในปี 66 เตรียมเปิดสาขาใหม่ 2 สาขา ได้แก่ ห้างโรบินสัน และ ห้างเซ็นทรัล เวสต์วิลล์ รวมถึงการปรับปรุง 4 สาขา ได้แก่ ห้างเซ็นทรัลชิดลม ห้างเซ็นทรัลรามอินทรา ห้างโรบินสันแฟชั่นไอส์แลนด์ และห้างเซ็นทรัลเมกะบางนา
และจะเปิดตัว Central App โฉมใหม่ในปี 66 เพื่อให้แพลตฟอร์มแข็งแกร่งและเติบโตมากยิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับการยกระดับ Social Commerce ด้วยการเปิดช่องทางช้อปใหม่อย่าง TikTok Shop และ Luxe Chat & Shop พร้อมพัฒนา Personalized Marketing ให้ตอบโจทย์ความต้องการและเข้าถึงอินไซต์ลูกค้าแต่ละกลุ่มอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
“เพราะการเป็นผู้นำในวงการรีเทล เราต้องปรับตัวให้เร็วและทันตามความต้องการของลูกค้า ตามเทรนด์ใหม่ๆ ของโลกเพื่อรักษาความเป็นเบอร์หนึ่งไว้ในทุกด้าน ตลอด 75 ปีที่ผ่านได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เราทำได้ และพร้อมเติบโตเคียงคู่ทุกโมเมนต์แห่งความสุขของคนไทยตลอดไป เป็น “ศูนย์กลางชีวิตของทุกคน” (Central to Life) อย่างแท้จริง” นายโอลิวิเยร์ กล่าว
ในปีนี้ห้างเซ็นทรัลคาดว่าจะมียอดทราฟฟิกเพิ่มขึ้น 25% พร้อมกับยอดช้อปที่เพิ่มขึ้นถึง 50% (customer spending) เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ด้าน Central App มียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 105% มียอดดาวน์โหลดแล้วกว่า 5.2 ล้านดาวน์โหลด และยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทิศทางของกลุ่มธุรกิจห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลและโรบินสันในช่วงไตรมาส 4/65 คาดว่าแนวโน้มของยอดขายจะเห็นการเติบโตขึ้นค่อนข้างมาก จากการที่ช่วงปลายปีเป็นช่วงเทศกาล ซึ่งจะทำให้มืการจับจ้ายใช้สอยในการซื้อสินค้าต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ที่จะนำไปให้เป็นของขวัญในช่วงเทศกาล เป็นจะเป็นปัจจัยที่ผลักดันการเติบโตขึ้นของยอดขายในช่วงไตรมาส 4/65 รวมถึงการเปิดประเทศที่จะทำให้มีกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาช้วยกระตุ้นยอดขาย จากการเข้ามาซื้อสินค้าในสาขาของบริษัท
ปัจจุบันจำนวนลูกค้าที่กลับเข้ามาจับจ่ายใช้สอยในสาขบห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล และโรบินสัน เริ่มเห็นการทยอยกลับมาต่อเนื่อง หลังจากเปิดเมือง และการแพร่ระบาดโควิด-19 คลี่คลายลง ทั้งสาขาในกรุงเทพฯ ปริมฑล และต่างจังหวัด โดยปัจจุบัน 5 อันดับ สาขาที่มียอดขายสูงสุด ได้แก่ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาชิดลม เซ็นทรัลเวิร์ล เซ็นทรัลลาดพร้าว เซ็นทรัลบางนา และเซ็นทรัลปิ่นเกล้า
บริษัทยังเตรียมจัดงานและแคมเปญฉลองครบรอบ 75 ปีพร้อมกันทั่วประเทศภายใต้คอนเซปต์ “ALL AT CENTRAL” ด้วยเซอร์ไพรส์มากมายเพื่อทำให้ทุกโมเมนต์ของลูกค้าทุกคนเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขผ่านทุกแพลตฟอร์มทั้งออนไลน์และออฟไลน์ พร้อมกับการรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชนแทนคำขอบคุณให้กับลูกค้าคนสำคัญ โดยวางงบที่ใช้ในการจัดแคมเปญกว่า 500 ล้านบาทจัดกิจกรรมช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค.65 ซึ่งมั่นใจว่าจะมียอดทราฟฟิกและยอดขายเพิ่มขึ้น 25% รวมถึงตัวเลขการเข้าถึงแคมเปญ (Reach) จะอยู่ที่ 80% เมื่อสิ้นสุดแคมเปญ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ก.ย. 65)
Tags: CRC, หุ้นไทย, เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น, โอลิวิเยร์ บรง