เงินบาทเปิด 36.72 อ่อนค่าหลังตัวเลขศก.สหรัฐออกมาดี-บอนด์ยิลด์สูงหนุนดอลลาร์แข็งค่า

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 36.72 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 36.56 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากบอนด์ยีลด์ที่ปรับตัวสูงขึ้นและตัวเลข ISM ภาคบริการของสหรัฐฯ ออกมาดีเกินคาด จะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระดับสูง 0.75% ได้อีก

“บาทกลับมาอ่อนค่าจากเย็นวานนี้ค่อนข้างมาก หลังดอลลาร์ได้รับปัจจัยหนุนให้แข็งค่าจากบอนด์ยีลด์และตัวเลข ISM ภาคบริการออกมาดีเกินคาด”

นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 36.70 – 36.90 บาท/ดอลลาร์ โดยทิศทางบาทน่าจะแกว่งตัวกว้างในกรอบ

THAI BAHT FIX 3M (6 ก.ย.) อยู่ที่ระดับ 0.85219% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.95042%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 143.15 เยน/ดอลลาร์ นิวไฮในรอบ 24 ปี จากช่วงเย็นที่ระดับ 141.67 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 0.9886 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นที่ระดับ 0.9956 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 36.460 บาท/ดอลลาร์
  • สรท. คงเป้าส่งออกไทยปี 2565 ที่ 6-8% ชี้ปัจจัยเสี่ยงกดดันรอบด้าน เงินเฟ้อทั่วโลก-ราคาพลังงานสูง-วัตถุดิบขาดแคลน อ้อนรัฐตรึงราคาดีเซล-ค่าไฟ พร้อมขอเปิดช่องเอกชนขยับราคาสินค้าสอดคล้องกลไกตลาดและต้นทุน
  • ตลท. ฟุ้งตลาดหุ้นไทยยังเนื้อหอม เศรษฐกิจฟื้น-บริษัทจดทะเบียนกำไรโต ดึงดูดเงินทุนต่างชาติไหลเข้าต่อเนื่อง โว ส.ค.65 ต่างชาติแห่ซื้อสุทธิ 5.7 หมื่นล้านบาท ดัน 8 เดือนยอดพุ่ง 1.7 แสนล้านบาท พร้อมคาดเฟดจ่อขยับดอกเบี้ยขึ้นอีก 0.50 หรือ 0.75%
  • รมว.แรงงาน เตรียมเสนอที่ประชุม ครม.ครั้งหน้า 13 ก.ย. เคาะขึ้นค่าแรงและค่าจ้างขั้นต่ำปี 2565 ตามมติคณะกรรมการค่าจ้าง 9 อัตรา มีอัตราค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 337 บาทหรือ 5.02% มั่นใจมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ต.ค.65
  • สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 56.9 ในเดือน ส.ค. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 55.5 จากระดับ 56.7 ในเดือนก.ค. โดยได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน
  • นักลงทุนปรับเพิ่มการคาดการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟดหลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคบริการ โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 74.0% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.00-3.25% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และให้น้ำหนัก 26.0% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50%
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (6 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคบริการที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในเดือนส.ค.
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (6 ก.ย.) โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ รวมทั้งความกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
  • นางลิซ ทรัสส์ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษแต่งตั้งให้นายควาซี ควาร์เต็ง ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังทั้งนี้ นายควาร์เต็งมีจุดยืนสนับสนุนการปรับลดภาษี ผ่อนคลายกฎระเบียบทางธุรกิจ และคลายความเข้มงวดทางการคลัง โดยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาวิกฤตค่าครองชีพของประชาชนได้
  • นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ในการประชุมประจำปีของสถาบันคาโต (Cato Institute) ในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
  • ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในวันนี้ ได้แก่ สหรัฐเปิดเผยยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนก.ค. รวมถึงรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ก.ย. 65)

Tags: , ,
Back to Top