นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชัน (AMATA) เปิดเผยว่า แนวโน้มการขายที่ดินในช่วงครึ่งปีหลังจะเห็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากครึ่งปีแรกอย่างชัดเจน โดยปัจจุบันมีลูกค้าหลากหลายกลุ่มที่เตรียมทยอยปิดดีลซื้อที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมของอมตะ ได้แก่ กลุ่มพลังงานทดแทน กลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์ กลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์ กลุ่มอาหาร กลุ่มเคมีภัณฑ์ และกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ เป็นต้น
ทั้งนี้ ครึ่งปีแรกบริษัทขายที่ดินไปแล้ว 200 ไร่ แบ่งเป็น การขายที่ดินในไทย 155 ไร่ และการขายที่ดินในเวียดนาม 45 ไร่ และยังคงเป้ายอดขายที่ดินในปีนี้ไว้ที่ 1,095 ไร่
บริษัทมองว่ายังคงเห็นแนวโน้มของลูกค้าผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการต่างประเทศที่สนใจเข้ามาลงทุนในกลุ่มประเทศอาเซียนมากขึ้น ทั้งในไทย และเวียดนาม จากความเสี่ยงไม่ความไม่แน่นอนจากความขัดแย้งของสงครามยูเครนและรัสเซีย การทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ประกอบกับยังมีปัจจัยทางการเมืองระหว่างประเทศจากการเยือนไต้หวันของนักการเมืองสหรัฐฯ ทำให้ผู้ประกอบการในต่างประเทศหลายรายเริ่มเตรียมย้ายฐานการผลิตมาในอาเซียนมากขึ้น รวมถึงการลงทุนด้านดาต้าเซ็นเตอร์ที่เพิ่มขึ้น ทำให้ความต้องการใช้ที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมที่มีสาธารณูปโภครองรับเพียงพอได้ประโยชน์ ซึ่งเป็นผลบวกต่อบริษัท
อย่างไรก็ตามสำหรับการที่ผู้ประกอบการรถยนต์ไฟฟ้า (EV) รายใหญ่ของประเทศจีน คือ BYD ได้มีการตกลงซื้อที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมของอีกหนึ่งบริษัทในตลาดหลักทรัพย์นั้น บริษัทมองว่าจะได้รับประโยชน์จากกลุ่มซัพพลายเออร์ของ BYD แทนมากกว่า โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาลงทุนก่อสร้างโรงงานหรือเป็นซัพพลายเออร์ที่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรมของบริษัทอยู่แล้ว ทำให้บริษัทไม่ได้กังวลในเรื่องดังกล่าว และยังมีผู้ประกอบการรถยนต์ไฟฟ้ารายอื่นที่สนใจเข้ามาซื้อที่ดินในนิมคมอุตสาหกรรมของบริษัทเพิ่มเติม
สำหรับมูลค่ายอดขายที่ดินรอรับรู้รายได้ (Backlog) ของบริษัทที่มีอยู่ 5.17 พันล้านบาท แบ่งเป็น Backlog ในไทย 3.37 พันล้านบาท ซึ่งจะทยอยโอนเข้ามาในช่วงครึ่งปีหลังราว 60-65% และในส่วน Backlog ของเวียดนาม 1.8 พันล้านบาท คาดว่าจะทยอยโอนเข้ามาในปี 66 และบริษัทคาดว่ามาร์จิ้นจากการขายที่ดินเริ่มเห็นการปรับตัวที่ดีขึ้น จากความต้องการที่กลับมา ทำให้ราคาขายที่ดินนิคมอุตสาหกรรมกลับเพิ่มขึ้นตามมา โดยเฉพาะในนิคมอุตสาหกรรมอมตะ ที่ชลบุรี ที่เห็นราคาขายที่ดินสามารถปรับเพิ่มขึ้นมาได้ในระดับตัวเลขสองหลัก
นอกจากนี้รายได้ที่มาจากการให้บริการสาธารณูปโภคในนิคมอุตสาหกรรมของบริษัทยังเห็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการที่โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆมีการผลิตกลับมามากขึ้น ทำให้ความต้องการใช้สาธารณูปโภคในนิคมอุตสาหกรรมกลับมา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหนุนต่อการเติบโตให้กับผลการดำเนินงานของบริษัท
ส่วนงบลงทุนของบริษัทในปีนี้ตั้งไว้ที่ 4-5 พันล้านบาท ไว้ใช้รองรับการซื้อที่ดินและปรับปรุงที่ดิน รวมถึงการลงทุนด้านสาธารณูปโภค
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ก.ย. 65)
Tags: AMATA, วิบูลย์ กรมดิษฐ์, หุ้นไทย, อมตะ คอร์ปอเรชัน