หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้ารีบาวด์ตามภูมิภาค น้ำมันดีดตัวขึ้นหนุนกลุ่มพลังงาน

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยรีบาวด์ตามตลาดหุ้นเอเชีย หลังปรับตัวลงเมื่อวานนี้ โดยมีแรงหนุนราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น หลังกลุ่มโอเปกพลัสตัดสินใจลดกำลังการผลิตลง หนุนหุ้นพลังงานผลักดันดัชนี ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆยังไม่มีผลอย่างมีนัยสำคัญต่อตลาดหุ้นไทย ให้ติดตามการประกาศยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่อาจช่วยหนุน sentiment บวกต่อตลาดหุ้นไทยได้ พร้อมให้แนวต้าน 1,635-1,640 จุด แนวรับ 1,605-1,610 จุด

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่ารีบาวด์ขึ้น หลังจากปรับตัวลงมาเมื่อวานนี้ ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหณ่เปิดมาเช้านี้ปรับตัวขึ้น โดยมองว่าตลาดหุ้นไทยได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น หลังการประชุมโอเปกพลัสประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมันลง ทำให้ราคาน้ำมันดีดตัวกลับขึ้นมา และเป็นแรงหนุนต่อหุ้นกลุ่มพลังงานที่คาดว่าจะช่วยหนุนตลาดในวันนี้

ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ยังไม่มีปัจจัยใหม่ที่ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อตลาดหุ้นไทย ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงสัปดาห์หน้า คือ การประกาศตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ส่วนปัจจัยในประเทศให้ติดตามการประกาศยกเลิก พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่อาจเป็นปัจจัยบวกให้กับ sentiment ของตลาดหุ้นไทยได้

โดยให้แนวต้าน 1,635-1,640 จุด แนวรับ 1,605-1,610 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก 5 ก.ย.ปิดทำการเนื่องในวันแรงงานสหรัฐ

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,650.15 จุด เพิ่มขึ้น 30.54 จุด หรือ +0.11%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 19,261.70 จุด เพิ่มขึ้น 36 จุด หรือ +0.19% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,207.93 จุด เพิ่มขึ้น 8.02 จุด หรือ +0.25%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (5 ก.ย.65.) ที่ระดับ 1,622.00 จุด ลดลง 0.15 จุด, -0.01%

– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,232.47 ล้านบาท เมื่อวันที่ 5 ก.ย.65

– ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ 5 ก.ย..ปิดทำการเนื่องในวันแรงงานสหรัฐ

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (5 ก.ย.) อยู่ที่ 8.69 ดอลลาร์/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 36.39 แข็งค่าจากวานนี้หลังดอลลาร์อ่อนค่า ตลาดรอปัจจัยใหม่

– พลังงานเตรียมชง ครม. 13 ก.ย.นี้ เคาะมาตรการช่วยเหลือประชาชนด้านพลังงาน ทั้งลดค่าไฟฟ้า และก๊าซหุงต้ม ขณะที่ สนค.เผยเงินเฟ้อ ส.ค.65 ทะยาน 7.86% รับผลกระทบราคาพลังงานสูง แต่คาดเงินเฟ้อไทยพ้นจุดสูงสุดแล้ว เดือน ก.ย.มีแนวโน้มลดลง หากปัจจัยภายนอก-ในไม่รุนแรงกว่าเดิม

– ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นัดประชุมวาระพิเศษ 8 ก.ย.นี้ พิจารณาคดี 8 ปี พล.อ.ประยุทธ์ หลังได้รับคำชี้แจงของพยานทั้ง 3 ปากแล้ว เผยหากสิ้นสงสัยเคาะวันนัดลงมติได้เลย “นิพนธ์” ลาออก “รมช.มหาดไทย” ขอเอาเวลาไปสู้คดีในชั้นศาลหลังถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดไม่เบิกจ่ายเงินค่ารถอเนกประสงค์ซ่อมบำรุงทางสมัยนั่ง นายก อบจ.สงขลา ศาลให้ประกันโดยไม่มีเงื่อนไข “บิ๊กตู่” ชมและให้กำลังใจ “บิ๊กป้อม” ยันไม่ปรับ ครม.รอประยุทธ์มาทำเองหากศาลตัดสินให้อยู่ต่อ

– ธุรกิจศูนย์ประชุมคึกคัก “อิมแพ็ค-ศูนย์ฯ สิริกิติ์” คิวจองพื้นที่ยิงยาวปี 66 รับเปิดเมืองแห่จัดอีเวนต์ เทรดแฟร์ คอนเสิร์ต ทั้งไทย-เทศ รับกำลังซื้อพร้อมใช้จ่าย ด้าน “จีเอ็มเอ็ม โชว์” เดินหน้าจัด มิวสิคแอนด์ไลฟ์สไตล์ เฟสติวัล 4 งานใหญ่ 3 จังหวัดภาคเหนือ กลาง อีสาน ชูกลยุทธ์ “ครีเอทีฟ” ผสาน “มิวสิค บิ๊กดาต้า” กระตุ้นสีสันท่องเที่ยวโค้งสุดท้าย

– นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานในกระทรวงติดตามสถานการณ์ พร้อมทั้งเตรียมมาตรการป้องกันน้ำท่วม เพื่อลดผลกระทบจากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ที่ให้กำชับไปยังนิคมอุตสาหกรรมทั้ง 67 แห่ง ต้องติดตามและเฝ้าระวังการเกิดน้ำท่วมฉับพลันโดยเฉพาะพื้นที่ที่มีความเสี่ยง เช่น นิคมฯ บางปะอิน นิคมฯ บ้านหว้า (ไฮเทค) และนิคมฯ นครหลวง ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่ราบลุ่มต่ำและติดแม่น้ำเจ้าพระยา รวมถึงนิคมฯ บางปู จังหวัดสมุทรปราการ ที่พื้นที่อยู่ใกล้ทะเล

 

หุ้นเด่นวันนี้

– BANPU (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้า 20 บาท ได้ Sentiment บวกราคาถ่านหินเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 460$/ton ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ คาดดีมานด์เพิ่มขึ้นหลังจาก Gasprom หยุดส่งก๊าซให้รัสเซีย อาจกระทบการใช้พลังงานเพื่อสร้างความอบอุ่นในฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง

– GULF (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 48.0 บาท 1.) เป็นหุ้น Defensive ในช่วงที่ตลลาดหุ้นภาพรวมผันผวน 2.) KSประเมินทิศทางกำไรโรงไฟฟ้า IPP อาทิ GULF ผลประกอบการครึ่งหลังจะฟื้นตัวชัด 3.)GULF กำลังพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าอีกหลายแห่งซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตในระยะยาวอีกทั้งยั้งกำลังศึกษาความเป็นไปได้ที่จะดำเนินธุรกิจนอกกลุ่มโรงไฟฟ้า เช่น โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ซึ่งคาดจะเป็นแหล่งสร้างกำไรสุทธิใหม่และเพิ่มการเติบโตในระยะยาว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ก.ย. 65)

Tags: , ,
Back to Top