เมืองกุ้ยหยาง ซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลกุ้ยโจว ประกาศล็อกดาวน์พื้นที่ส่วนใหญ่เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ทั้งนี้ เทศบาลเมืองกุ้ยหยางสั่งล็อกดาวน์ชุมชนใน 6 เขตจากทั้งหมด 10 เขตเป็นเวลา 4 วันจนถึงวันพฤหัสบดีที่ 8 ก.ย. โดยประชาชนใน 6 เขตที่ถูกล็อกดาวน์นั้นจะได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้านก็ต่อเมื่อไปรับการตรวจเชื้อโควิด-19 เท่านั้น และการบริการรถแท็กซี่ทั้งหมดจะหยุดให้บริการ
เมืองกุ้ยหยางรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่จำนวน 132 รายเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (5 ก.ย.) ซึ่งเพิ่มขึ้น 28 รายจากวันอาทิตย์ โดยกุ้ยหยางมีประชาชนอาศัยอยู่ประมาณ 6.1 ล้านคน และเป็นที่ตั้งของบริษัทผลิตรถยนต์หลายแห่งซึ่งรวมถึงบริษัทจีลี ออโตโมบิล โฮลดิ้งส์
การล็อกดาวน์เมืองกุ้ยหยางมีขึ้นในขณะที่เมืองเฉิงตูซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลเสฉวน ประกาศขยายเวลาการล็อกดาวน์ออกไปจนถึงวันพุธที่ 7 ก.ย. เพื่อดำเนินการตรวจเชื้อโควิด-19 ครั้งใหญ่ให้กับประชาชน
ทั้งนี้ จีนยังคงยึดมั่นในนโยบายโควิดเป็นศูนย์ตามแนวทางของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แม้ว่าการใช้มาตรการล็อกดาวน์จะส่งผลกระทบต่อภาคส่วนต่าง ๆ ในระบบเศรษฐกิจของจีนก็ตาม โดยล่าสุดผลสำรวจของไฉซินระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนส.ค.ของจีนปรับตัวลงสู่ระดับ 49.5 จากระดับ 50.4 ในเดือนก.ค. โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 เนื่องจากผลกระทบของมาตรการล็อกดาวน์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ก.ย. 65)
Tags: COVID-19, กุ้ยหยาง, กุ้ยโจว, ควบคุมการแพร่ระบาด, จีน, ล็อกดาวน์, โควิด-19