การรถไฟจีนเปิดเผยว่า ยอดการเดินทางโดยรถไฟของจีนแตะระดับต่ำสุดในรอบ 8 ปี ในฤดูร้อนที่ปกติแล้วเป็นช่วงที่มีการเดินทางอย่างคับคั่ง เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้คนเดินทางน้อยลง รวมถึงส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว
รายงานระบุว่า ยอดการเดินทางผ่านเครือข่ายรถไฟจีนอยู่ที่ 440 ล้านครั้งในระหว่างวันที่ 1 ก.ค. -31 ส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2557
ยอดการเดินทางดังกล่าวลดลง 4.8% จาก 462 ล้านครั้งในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2564 และลดลง 3.5% จาก 456 ล้านครั้งของปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงที่โควิด-19 แพร่ระบาดอย่างหนัก
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ฤดูร้อนเป็นฤดูกาลที่การคมนาคมขนส่งมีความคับคั่งที่สุดช่วงหนึ่งของจีน เนื่องจากครอบครัวและนักศึกษานิยมเดินทางท่องเที่ยวและกลับบ้าน แต่การบังคับใช้มาตรการสกัดโควิด-19 ในเมืองต่าง ๆ ตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ทำให้แผนการเดินทางต้องหยุดชะงัก
เมื่อช่วงต้นเดือนส.ค. ซานย่า ซึ่งเป็นเมืองตากอากาศทางตอนใต้ของจีน ได้ประกาศล็อกดาวน์และจำกัดเส้นทางคมนาคมขนส่ง เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นหลังนักท่องเที่ยวประมาณ 80,000 คนแห่เดินทางเที่ยวเมืองดังกล่าว
นอกจากนี้ เมืองกวางโจวและเมืองเซินเจิ้น ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของจีน ได้ประกาศใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในวันพุธ (31 ส.ค.) ที่ผ่านมา โดยทั้งสองเมืองรวมกันมีผลผลิตทางเศรษฐกิจทั้งสิ้น 5.89 ล้านล้านหยวน (8.5331 แสนล้านดอลลาร์) หรือประมาณครึ่งหนึ่งของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเกาหลีใต้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ก.ย. 65)
Tags: COVID-19, จีน, รถไฟจีน, ล็อกดาวน์, โควิด-19