CryptoShot: The Merge คืออะไร ใครได้:ใครเสีย

ใกล้ถึงวัน Upgrage ครั้งใหญ่ของ Ethereum Chain ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงระบบจาก Proof-of-Work (PoS) เป็น Proof-of-Stake (PoS) ซึ่งการ Upgrade ครั้งนี้จะเป็นการตัด Miner (นักขุด) ผู้ยืนยันธุรกรรม ออกจากระบบเข้ามาทุกที บรรดาผู้ใช้งานและเหล่านักพัฒนา (Developer) ต่างเฝ้ารอการ Upgrade ครั้งนี้ว่ามันจะทำให้ระบบสามารถทำงานได้เร็วขึ้นหรือไม่ ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม (ค่าแก๊ส) จะถูกลงหรือไม่ ทุกคนจะได้รู้พร้อมกันในวันที่ 23 ก.ย.65 (โดยประมาณ)

The Merge คือ Ethereum Upgrade อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งครั้งนี้จะเปลี่ยนจาก PoW ไปเป็น PoS นั่นเอง ปกติแล้ว Ethereum จะทำงานด้วย PoW โดยมีเหล่า Miner เป็นผู้ยืนยันธุรกรรมและได้รับ Block Reward จากการยืนยันธุรกรรมดังกล่าว แต่หลังจากเปลี่ยนเป็น POS แล้ว จะไม่มีเหล่า Miner ในระบบอีกต่อไป เพราะใคร ๆ ก็สามารถทำหน้าที่เป็นผู้ยืนยันธุรกรรม (Validator) ได้ แค่นำ 32 Ethereum ไปวาง (Stake) เป็นหลักค้ำประกัน

งานนี้เหล่า Miner สายขุดด้วย GPU เจ็บหนักเลย เนื่องจากการ Upgrade ครั้งนี้คือการตัดตัวกลางอย่าง Miner ออกจากระบบอย่างสิ้นเชิง ดังนั้น หากมีใครชวนไปลงทุนใน Cloud Computing หรือว่าชวนไปลงทุนในเครื่องขุด นักลงทุนก็โปรดใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ

สำหรับผู้ใช้งานบล็อกเชนอย่างเรา ๆ ย่อมมีคำถามทันทีว่า The Merge มาแล้วค่าแก๊สจะถูกลงหรือไม่? แล้ว Transaction จะเร็วขึ้นไหม? ซึ่งเมื่อวันพุธที่ผ่านมาในงาน Crypto Meetup หัวข้อ The Merge นี้มีทั้ง โดม จาก Dome Cloud, ต้นฮ้อ พลากร จาก KULAP และคุณ Kim Property, youtuber ชื่อดังมาช่วยกันไขคำตอบกันว่า The Merge ไม่ได้ทำให้ค่าแก๊สถูกลงมากนัก อาจจะลดลงไปบ้างเล็กน้อยเท่านั้น แต่ไม่ได้เป็นนัยสำคัญ ยกตัวอย่าง หากเราทำธุรกรรมบน Ethereum Chain ค่าแก๊สจะอยู่ที่ประมาณ 0.3 ดอลลาร์ พอ The Merge มาถึง ก็อาจจะถูกลงเหลือ 0.27 ดอลลาร์

The Merge จะทำให้ธุรกรรมเร็วขึ้นหรือไม่? ตรงนี้หลายคนยังเข้าใจผิดอยู่ เพราะการที่ธุรกรรมจะเร็วหรือช้า ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ใช้งาน ลองนึกภาพตามว่าเหมือนเราใช้ทางด่วน ถ้าถนนข้างล่างติด เราก็มักจะไปใช้ทางด่วน แต่ถ้ามีคนหนีมาใช้ทางด่วนจำนวนมาก ก็จะทำให้รถไปติดลบทางด่วนอยู่ดี Ethereum Chain ก็มีหลักทำงานเช่นนั้น

ทั้งนี้ The Merge คาดว่าจะมาถึงประมาณวันที่ 23 ก.ย.65 สาเหตุที่ไม่สามารถระบุวันแน่นอนได้ เพราะว่า The Merge จะอยู่ที่หมายเลข “บล็อก” โดย Ethereum 1 block ใช้เวลาประมวลผล 15 วินาที บางครั้งก็เร็วกว่านั้น ช้ากว่านั้นบ้าง แล้วแต่ความยากง่ายในการแก้โจทย์สมการ หากใกล้ถึงวันที่ The Merge มาเมื่อไหร่ธุรกรรมบน Ethereum Chain จะลื่นปรื้ดเลยหรือไม่ Crypto SHOT จะมาอัพเดตกัน 2. มหากาพย์ BITKUB ยังไม่จบ

หลังจากที่ BITKUB เพิ่งโดน SCB ล้มดีลไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มาถึงวันนี้ก็ยังเจอเรื่องวุ่น ๆ ไม่เลิก ขณะที่ Binance ซึ่งเป็น Exchange ชื่อดังระดับโลกก็ใกล้จะก้าวเข้ามาให้บริการในตลาดบ้านเรา

ล่าสุดทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ประกาศลงโทษทางแพ่งกับผู้บริหารของ BITKUB ซึ่งก็คือนายสำเร็จ วจนะเสถียร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด (BBT) กรณีใช้ข้อมูลภายในจากดีลยักษ์แห่งปีระหว่าง BITKUB และกลุ่มเอสซีบีเอกซ์ ในการเข้าซื้อเหรียญ KUB หรือที่เราเรียกกันว่า Insider โดยมีบทลงโทษปรับเงิน 8,530,383 บาท และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นเวลา 12 เดือน

จากนั้น นายสำเร็จ ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงว่าได้ซื้อเหรียญ KUB ระหว่างวันที่ 4 ก.ย.-2 พ.ย.64 ที่ราคา 30-32 บาท พร้อมทั้งยืนยันว่าไม่เคยรับรู้ดีลระหว่าง BITKUB กับเอสซีบี เพราะนั่งเป็นผู้บริหารของ BBT ไม่ใช่ส่วนที่เป็น Exchange และมีจุดประสงค์ซื้อเหรียญ KUB เพื่อเก็บลงทุนระยะยาวและใช้ชำระเป็นค่าธรรมเนียมการเทรดเท่านั้น อีกทั้งยังไม่เคยเทขายเหรียญ KUB เพื่อทำกำไรเลยแม้ว่าราคาจะขึ้นไปสูงแล้วก็ตาม

ในเวลาเดียวกัน BBT ก็ประกาศหน้าเฟซบุ๊กว่านายสำเร็จจะยังคงดำรงตำแหน่ง CTO ต่อไป จนกว่าจะมีความชัดเจนตามกระบวนการทางกฎหมายที่นายสำเร็จตั้งใจจะต่อสู้คดีนี้

แต่เรื่องราวไม่จบง่าย ๆ วันรุ่งขึ้น ก.ล.ต.ได้ออกมาชี้แจงรายละเอียดของ “มาตรการลงโทษทางแพ่ง” ทันที โดยมีประเด็นที่เป็นไฮไลท์คือการเข้าซื้อหุ้นหรือเหรียญฯ ที่เชื่อว่าเป็นการใช้ข้อมูลภายในจะถือว่าการกระทำความผิดตามกฎหมายได้เกิดขึ้นแล้ว แม้ว่าจะยังไม่ได้ขายออกไปเพื่อทำกำไร ส่วนประเด็นที่นายสำเร็จระบุว่าไม่เคยรู้เรื่องดีลนี้มาก่อน ก.ล.ต. ก็คงไม่ได้รับฟังข้อแก้ตัวนี้

ถือเป็นเรื่องที่น่าคิด เพราะหลังจาก SCB ล้มดีลไม่นานผู้บริหารก็มาโดนลงโทษอีก, การที่นายสำเร็จไม่เคยขายเหรียญจะถือว่าผิดหรือไม่, ก.ล.ต.ล็อกเป้า BITKUB หรือไม่ และ อนาคตเหรียญ KUB จะเป็นอย่างไร?? *BitToonDao ขาย NFT รอบ Whitelist หมดเกลี้ยง ได้ไปกว่าล้านบาท

BitToonDao ก็ได้เปิดให้ Mint NFT กัน เมื่อวันที่ 31 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยรอบ Whitelist ขายหมดทันทีกลังจากเปิดให้ Mint เพียงแค่ 5 นาที โดย Collection นี้ประกอบด้วย Rare 11 ตัว และในรอบของบุคคลทั่วไปก็ได้เปิดให้ Mint กันอีกครั้งในวันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา สำหรับใครที่ Mint ไม่ทันก็สามารถจับจองได้ที่ Opensea.io

หลายคนอาจมองว่าช่วงนี้ตลาด NFT เป็นขาลง แต่จริง ๆ แล้วก็ยังมี NFT Project เกิดขึ้นใหม่ตลอดเวลา อย่างล่าสุดก็มีการออก BullMoonClub-NFT จากค่าย Stock2morrow ที่ชูจุดเด่น 3 อย่าง นั่นคือ Art + Community + Utility สำหรับใครที่เป็นสาย NFT ก็ไปติดตามกันได้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ก.ย. 65)

Tags: , , , ,
Back to Top