นายจักรี บุญยเกียรติ รองกรรมการผู้อำนวยการสายการเงิน บัญชี และเทคโนโลยีสารสนเทศ บมจ.สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี (SAT) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าผลประกอบการจะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยมั่นใจว่ารายได้จะสามารถเติบโตได้มากกว่าอุตสาหกรรม หลังจากที่บริษัทได้คำสั่งซื้อใหม่ๆเข้ามาจากค่ายรถยนต์
ทั้งนี้ ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์คาดว่ายอดผลิตรถยนต์ในประเทศทั้งปีนี้จะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 1.75-1.8 ล้านคัน หรือเติบโต 3-5% จากปีก่อนที่ 1.69 ล้านคัน โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของกิจกรรมทางด้านเศรษฐกิจ และ สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามสถานการณ์ขาดแคลนชิปอย่างใกล้ชิดต่อไป
สำหรับต้นทุนด้านวัตถุดิบในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะทรงตัวจากช่วงครึ่งปีแรก แต่ก็คงยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับปี 64 ซึ่งบริษัทได้มีการเจรจาเพื่อปรับขึ้นราคาขายสินค้าให้สะท้อนกับต้นทุนที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นได้ทั้งหมดแล้ว ในขณะเดียวกันบริษัทยังได้มีการบริหารจัดการภายในอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อที่จะเป็นการรักษาความสามารถในการแข่งขันด้วย
ด้านค่าแรงขั้นต่ำที่จะมีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นนั้น บริษัทยืนยันว่าจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากบริษัทได้มีการจ่ายค่าแรงในระดับที่สูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำอยู่แล้ว
“ทิศทางผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ปรับตัวดีขึ้น และเราจะสามารถรับรู้รายได้สินค้าที่มีการปรับราคาไปตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3/65 เป็นต้นไปด้วย นอกจากนี้เรายังได้คำสั่งซื้อใหม่ๆเข้ามาเพิ่มเติมน่าจะทำให้ผลประกอบการของเราเติบโตได้ใกล้เคียงกับอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย”นายจักรี กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 ส.ค. 65)
Tags: SAT, จักรี บุญยเกียรติ, สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี, หุ้นไทย