SCM เริ่มปล่อยสินเชื่อ “จัดให้ลีสซิ่ง” ก.ย.นี้ วางเป้าปี 67 พอร์ตแตะ 1 พันลบ.

นายนพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ (SCM) เปิดเผยถึงการให้บริการธุรกิจลิสซิ่ง ภายใต้ชื่อ “บริษัท จัดให้ ลิสซิ่ง จำกัด” ว่า ภายในเดือน ก.ย.นี้จะสามารถเริ่มทยอยปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มสมาชิกซัคเซสมอร์อย่างเป็นทางการ โดยตั้งเป้าหมายพอร์ตสินเชื่อในเฟสแรกภายในสิ้นปีนี้ที่ 50 ล้านบาท ก่อนจะขยายพอร์ตสู่ระดับ 1,000 ล้านบาทได้ภายในปี 67

ทั้งนี้ บริษัทมองว่าช่วงครึ่งหลังของปี 65 ภาพรวมตลาดอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภคในรูปแบบเครือข่าย(MLM) ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทเร่งเดินกลยุทธ์ทางการตลาด โดยเตรียมเปิดผลิตภัณฑ์ใหม่ อาทิ ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าแบรนด์ เอส โมเน่ (S MONE’) ครีมบำรุงผิวหน้าสูตร เข้มข้น พร้อมเผยผิวขาวกระจ่างใส

นอกจากนี้ ยังเตรียมออกผลิตภัณฑ์ช่วยเรื่องการนอนหลับ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกหลาย SKU ควบคู่กับการขยายฐานกลุ่มสมาชิกใหม่ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยในเร็วๆ นี้บริษัทเตรียมเปิดสาขาใหม่ ได้แก่ สาขา จ.นครราชสีมา รวมถึงขยายฐานสมาชิกไปยังต่างประเทศ อย่าง ฟิลิปปินส์ จากปัจจุบันที่มีตัวแทนจำหน่ายแล้วใน 6 ประเทศ ได้แก่ เมียนมา, ลาว, กัมพูชา, เวียดนาม, มาเลเซีย และสิงคโปร์

แผนกลยุทธ์ทางการตลาดเชิงรุกภายใต้การเจาะตลาดผ่านเครื่องมือดิจิทัล การปั้นขุนพลนักขยายเครือข่าย การสร้างการรับรู้แบรนด์และคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ไปยังผู้บริโภคให้มากขึ้น รวมถึงการใช้ Big Data เพื่อวิเคราะห์และสร้างประสบการณ์ที่ดีต่อแบรนด์ให้กับลูกค้า ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทมีสมาชิกรวมทั้งในและต่างประเทศ จำนวน 180,000 ราย และคาดว่าจะสามารถขยายฐานสมาชิกที่ทวีคูณเพิ่มมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม จากแนวโน้มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น สอดรับกับทิศทางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ปรับมา ประกอบกับแผนการวางกลยุทธ์ของบริษัทฯที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มสมาชิกและผู้บริโภค ส่งผลให้บริษัทฯ คาดว่าผลการดำเนินงานในปี 65 มีโอกาสเติบโต 20% เมื่อเทียบจากปี 64 ตามเป้าหมาย

นายนพกฤษฏิ์ กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้รวมจากการขายสินค้าและการบริการที่ 556.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ที่มีรายได้จากการขายสินค้าและการบริการ 529.6 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 92.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ที่มีกำไรสุทธิ 88.6 ล้านบาท จากการเติบโตของยอดขายในกลุ่มสินค้าเพื่อการเกษตร เนื่องจากกลุ่มลูกค้าที่ใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อการเกษตรของบริษัทฯ ให้การยอมรับและบอกต่อในตัวผลิตภัณฑ์มากขึ้น ประกอบกับภาวะราคาปุ๋ยที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้สินค้าเพื่อการเกษตรของบริษัทฯ สามารถเข้าทำตลาดและได้รับความสนใจจากลูกค้ามากขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทสามารถจัดกิจกรรมทางการตลาดในรูปแบบออนไลน์ ที่มีประสิทธิภาพ และสามารถกระตุ้นการบริโภค ซึ่งจากผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกสะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของ “ซัคเซสมอร์” ได้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นแผนการเดินเกมรุกในครึ่งปีหลัง ยิ่งเป็นการตอกย้ำให้เห็นศักยภาพความแข็งแกร่งทางธุรกิจที่จะต่อยอดไปถึงการเติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างมีนัยสำคัญ

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 ส.ค. 65)

Tags: , , , ,
Back to Top