บมจ.เจริญอุตสาหกรรม (CH) ตั้งราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 160 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 2.34 บาท โดยจะเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 1-2 และ 5 ก.ย. และคาดว่าจะนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 12 ก.ย.นี้
CH เป็นผู้นำธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลไม้และอาหารแปรรูป ใน 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ ผลไม้อบแห้ง ปลากระป๋อง และขนมเพื่อสุขภาพ ที่เน้นส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศเป็นหลักรวมกว่า 50 ประเทศ ด้วยทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์จากรุ่นสู่รุ่นมากว่า 97 ปี
นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ของ CH กล่าวว่า CH ลงนามสัญญาแต่งตั้ง บล.ฟินันเซีย ไซรัส เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO พร้อมด้วยผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย อีก 6 แห่ง ได้แก่ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) , บล.โนมูระ พัฒนสิน , บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) , บล.เอเอสแอล, บล.โกลเบล็ก และ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)
“การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ของ CH จะช่วยเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจและความแข็งแกร่งของฐานะการเงินแก่บริษัท ซึ่ง CH นับเป็นบริษัทที่มีศักยภาพการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่ง และมีทิศทางการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต จึงมั่นใจ CH จะเป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุน”
นายสมศักดิ์ กล่าว
ด้าน นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า การกำหนดราคา IPO ของ CH ที่หุ้นละ 2.34 บาท เป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐาน และสอดคล้องกับสภาวะของตลาดในปัจจุบัน พร้อมกำหนดวันจองซื้อหุ้นวันที่ 1-2 และ 5กันยายน 2565 และคาดว่าหุ้น CH จะเข้าทำการซื้อขายใน SET ภายใต้กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในวันที่ 12 ก.ย.นี้
ขณะที่ นายศักดา ศรีแสงนาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CH เปิดเผยว่า การเข้าจดทะเบียนใน SET เพื่อสนับสนุนให้ CH มีศักยภาพการเติบโตในอุตสาหกรรมผลิตและจำหน่ายผลไม้และอาหารแปรรูปอย่างมั่นคง รวมถึงการสร้างสรรค์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์กลุ่ม Healthy Food เพื่อตอบโจทย์เทรนด์รักสุขภาพ และเสริมสร้างศักยภาพให้ CH เป็นผู้นำด้าน INNOVATIVE HEALTHY FOOD ตามวิสัยทัศน์ของบริษัท
เงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ บริษัทจะนำไปใช้เพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการผลิตสินค้าที่โรงงานท่าฉลอม จังหวัดสมุทรสาคร และปรับปรุงคลังสินค้าท่าทราย จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อเพิ่มพื้นที่การจัดเก็บวัตถุดิบ (Raw Material) สินค้ากึ่งสำเร็จรูป (Semi-Product) และสินค้าสำเร็จรูป (Finished Goods) รวมถึงเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการเพื่อรองรับการเติบโตของกิจการในอนาคต
สำหรับผลประกอบการปี 62-64 บริษัทมีรายได้จากการขาย 1,656.76 ล้านบาท 1,634.47 ล้านบาท และ 1,442.28 ล้านบาท ตามลำดับ และกำไรสุทธิ 7.90 ล้านบาท 67.29 ล้านบาท และ 67.07 ล้านบาท ตามลำดับ
ส่วนผลประกอบการงวด 6 เดือนปี 65 บริษัทมีรายได้จากการขาย 910.04 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 67.34 ล้านบาท เติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีรายได้จากการขาย 726.20 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 28.26 ล้านบาท
“การเดินสายโรดโชว์นำเสนอข้อมูลหลักทรัพย์ให้กับนักลงทุนใน 14 จังหวัดที่ผ่านมา บริษัทได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักลงทุน ที่ต่างเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของบริษัท และการเติบโตอย่างยั่งยืน บริษัทมีความยินดีและหวังว่านักลงทุนทุกท่านจะให้การตอบรับและมาร่วมเป็นผู้ถือหุ้น CH ด้วยกัน เพื่อสืบทอดและแผ่ขยายร่มเงาของต้นไม้ธุรกิจ CH ต่อไปอย่างยั่งยืน สมดั่งปณิธานมรดกอันล้ำค่าที่สืบต่อกันมา”
นายศักดา กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ส.ค. 65)
Tags: CH, หุ้นไทย, หุ้นไอพีโอ, เจริญอุตสาหกรรม