สกุลเงินของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในช่วงเช้านี้ หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ย้ำว่าเฟดจะยังคงเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ และมีแนวโน้มที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ในเดือนก.ย.
นายพาวเวลกล่าวในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮลเมื่อวันศุกร์ (26 ส.ค.) ว่า ภารกิจของเฟดในการต่อสู้กับเงินเฟ้อยังไม่เสร็จสิ้น โดยเฟดจะยังคุมเข้มนโยบายการเงินต่อไป ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐ
นอกจากนี้ นายพาวเวลกล่าวว่า เฟดยังคงจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป และเฟดจะไม่ตัดทางเลือกในการ “ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่มากกว่าปกติ” ในเดือนก.ย.
ข้อมูลจาก FactSet ระบุว่า ในช่วงเช้าวันนี้ ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 1% เมื่อเทียบกับเงินวอน ที่ระดับ 1,349.6 วอน ซึ่งเป็นการแข็งค่ามากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2552 นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 0.6% เมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 138.53 เยน, แข็งค่า 0.3% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สิงคโปร์ ที่ระดับ 1.3988 ดอลลาร์สิงคโปร์ และแข็งค่า 0.3% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ออสเตรเลีย ที่ระดับ 0.6863 ดอลลาร์ออสเตรเลีย
นักวิเคราะห์จากธนาคารมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) เปิดเผยกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า นายพาวเวลส่งสัญญาณชัดเจนว่าจะเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ย และมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในระดับที่รุนแรงมากขึ้นจนกว่าจะมั่นใจว่าเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้
นักวิเคราะห์มองว่า ความเห็นของนายพาวเวลบ่งชี้ว่าแม้เฟดมีแนวโน้มที่จะหยุดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังสิ้นเดือนธ.ค.ปีนี้ แต่คาดว่าเฟดจะตรึงดอกเบี้ยต่อไปอีกประมาณ 6 เดือน และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาจต้องเลื่อนออกไปอีก
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ของ MUFG คาดว่าตลอดทั้งวันนี้ สกุลเงินในภูมิภาคเอเชียจะถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ อันเนื่องมาจากการส่งสัญญาณเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยของนายพาวเวล
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ส.ค. 65)
Tags: lifestyle, ค่าเงิน, ธนาคารกลางสหรัฐ, อัตราแลกเปลี่ยน, เจอโรม พาวเวล