นายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า จากการที่สำนักงานสลากฯ ดำเนินการจำหน่ายสลากดิจิทัล ตั้งแต่งวดวันที่ 16 มิ.ย.65 จนถึงขณะนี้ผ่านมาแล้ว 6 งวด มีผลตอบรับจากผู้ซื้อมีความพึงพอใจที่สามารถซื้อสลากหมายเลขที่ต้องการได้จริง ในราคา 80 บาททุกใบ โดยข้อมูลจำนวนผู้ซื้อสะสมตั้งแต่งวดที่ 1-6 มีประมาณ 2.8 ล้านราย เป็นผู้ที่ซื้อประจำ 5 แสนราย (17%) ผู้ซื้อที่ไม่ได้ซื้อเป็นประจำ 2.3 ล้านราย (83%) โดยส่วนใหญ่ประมาณ 50% จะซื้อสลากงวดละ 2-5 ใบ รองลงมา ซื้อสลากงวดละ 1 ใบ คิดเป็น 19% และซื้อสลากงวดละ 6-10 ใบ คิดเป็น 17%
อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาในการจำหน่ายสลากดิจิทัล ยังคงหมดลงเร็วกว่าที่ควรจะเป็น ดังนั้น เพื่อให้มีระยะเวลาจำหน่ายที่เหมาะสมในแต่ละงวด คือ 7-10 วัน จึงได้เพิ่มปริมาณสลากงวดวันที่ 16 ก.ย.65 เป็น 11.45 ล้านฉบับ โดยสลากทั้งหมดเป็นของตัวแทนจำหน่าย 22,906 ราย โดยจะเริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย.65 เวลา 06.00 – 23.00 น. ทุกวันจนกว่าสลากจะหมด
“ปีนี้ ตั้งเป้าจำหน่ายสลากราคา 80 บาท ประมาณ 20 ล้านใบ ดังนั้น การเพิ่มทางเลือกให้ร้านค้าสามารถลดราคาสลากดิจิทัลได้จะมีประโยชน์ หากปริมาณสลากมีมากกว่า 15 ล้านใบ ในส่วนของเลขที่ไม่ค่อยได้รับความนิยม และขายออกช้า ผู้ขายสามารถเลือกได้ว่าจะลดราคาลง เพื่อให้ขายง่ายขึ้น หรือจะเก็บสลากไว้ลุ้นรางวัล หากขายไม่ได้จนถึงวันสุดท้าย คนขายจะค่อยๆ ปรับตัวและเรียนรู้ ในส่วนของคนซื้อก็มีโอกาสได้ซื้อสลากราคาต่ำกว่า 80 บาท เราอยากเห็นประชาชนเป็นผู้ตั้งราคาสลาก อยากเห็นการปฏิเสธการซื้อสลากเกินราคา โดยจะเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันให้สลากในตลาดราคาถูกลงด้วย” นายลวรณกล่าว
นายลวรณ กล่าวด้วยว่า สลากดิจิทัลในงวดวันที่ 1 ก.ย.65 ซึ่งขายหมดที่ผ่านมา ได้มีการเพิ่มปุ่มลดราคาเป็นครั้งแรก เป็นสิทธิคนขายว่าต้องการจะลดราคาหรือไม่ ซึ่งสามารถลดได้ต่ำสุดที่ใบละ 78 บาท ในระยะต่อไป ปุ่มลดราคาจะมีความจำเป็นมาก เพราะจะมีการเพิ่มจำนวนสลากดิจิทัลมากกว่า 20 ล้านใบ ทำให้ผู้ขายต้องตัดสินใจว่าจะอยากลดราคาเพื่อให้สลากขายได้หรือไม่ หรือจะเก็บไว้ลุ้นรางวัลเอง ในกรณีที่ไม่สามารถขายได้หมด
นอกจากนี้ ยังมอบการบ้านให้ไปศึกษาแนวทางการนำโควตาสมาคมผู้พิการเข้ามาขายในระบบดิจิทัลมากขึ้น ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้พิการ ไม่ต้องไปเดินขายเอง มีเวลาเหลือสามารถไปประกอบอาชีพอื่นหารายได้เพิ่ม โดยปัจจุบันมีโควตาสมาคมผู้พิการประมาณ 15 ล้านใบ คิดเป็นจำนวนสมาคม 890 แห่ง ซึ่งจะต้องไปดูว่าจะทำอย่างไรให้โควตาส่วนนี้ เข้ามาขายในระบบดิจิทัล แต่ต้องทำด้วยความสมัครใจ
ขณะเดียวกัน จะนำรายชื่อผู้ขายสลากดิจิทัลกว่า 2 หมื่นราย ส่งให้กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พิจารณาคัดกรองว่ามีผู้ขายรายใดบ้างอยู่ในบัญชีผู้พิการ และจะนำรายชื่อดังกล่าวส่งถึงธนาคารกรุงไทย เพื่อแยกกลุ่มผู้ขายสลากดิจิทัลที่เป็นผู้พิการ ในแอปพลิเคชันเป๋าตังเพิ่มเติม ซึ่งผู้ค้าที่เป็นพิการสามารถเลือกได้ว่าจะยืนยันตันเป็นผู้ค้าคนพิการ หรือผู้ค้าทั่วไป
“การดูแลคนพิการจะแยกเป็น 2 ส่วนคือ ผู้ที่ขายสลากดิจิทัลในระบบอยู่เดิมกว่า 2 หมื่นราย ก็จะมีช่องทางการขายสำหรับผู้พิการเฉพาะ เพื่อให้คนซื้อสามารถเลือกซื้อได้จากผู้พิการได้โดยตรง และอีกแนวทาง คือการนำโควตาผู้พิการที่มีอยู่ในปัจจุบันมาเข้าระบบดิจิทัล ซึ่งหากได้รับความสนใจ จำนวนสลากดิจิทัลในตลาดก็จะมีเพิ่มขึ้น กว่าเป้าหมาย 20 ล้านใบได้ ผู้ซื้อก็จะได้ซื้อในตลาดราคา 80 บาท เพิ่มขึ้นด้วย” นายลวรณ กล่าว
ประธานบอร์ดสลากฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการรับฟังความคิดเห็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และศึกษาผลกระทบทางสังคมเกี่ยวกับการออกสลากกินแบ่งรัฐบาล และ L6 และ N 3 กำลังอยู่ระหว่างรวบรวมและสรุปผลโดยมหาวิทยาลัยขอนแก่น คาดว่าจะสามารถส่งผลสรุปให้สำนักงานสลากฯ ได้ภายในสิ้นเดือนส.ค.นี้ และหลังจากนั้น สำนักงานสลากฯ จะรวบรวมความคิดเห็น รวมทั้งผลการศึกษาผลกระทบทางสังคมในทุกมิติ ตลอดจนมาตรการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เสนอคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล และกระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณานำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป
ด้าน พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า การดำเนินงานของสำนักงานสลากฯ อีกภารกิจหนึ่ง คือ การออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งในงวด 1 ก.ย. 65 จะเดินทางไปออกรางวัลสลากสัญจร ณ ห้องราชพฤกษ์ ชลพฤกษ์ รีสอร์ท จ.นครนายก เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนในต่างจังหวัด ได้เห็นขั้นตอนและวิธีการตลอดจนอุปกรณ์ที่ใช้ในการออกรางวัลด้วยตนเอง จะได้ไม่หลงเชื่อข่าวลือเรื่องเลขเด็ดจากกลุ่มมิจฉาชีพที่ทำการหลอกลวงต้มตุ๋น ผ่านทางสังคมออนไลน์ และการส่งจดหมายแอบอ้างว่าสามารถให้ตัวเลขที่จะออกรางวัลได้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ส.ค. 65)
Tags: ลวรณ แสงสนิท, สลากกินแบ่งรัฐบาล, สลากดิจิทัล, หวย