ตลาดหลักทรัพย์ปักกิ่ง (BSE) เปิดเผยว่า มีนักลงทุนเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์มากขึ้นนับตั้งแต่เริ่มเปิดทำการซื้อขายเมื่อเดือนพ.ย. 2564 ส่งผลให้มียอดรวมบัญชีการซื้อขายหลักทรัพย์ในขณะนี้อยู่ที่ระดับกว่า 5.1 ล้านบัญชี
ข้อมูลจาก BSE ระบุว่า กว่าครึ่งหนึ่งของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาด BSE มีกำไรสุทธิมากกว่า 50 ล้านหยวนในปีที่แล้ว
BSE เริ่มเปิดทำการซื้อขายแล้วเมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2564 นับเป็นก้าวสำคัญของจีนในการปรับปรุงตลาดทุนของประเทศ เนื่องจากตลาดหุ้นแห่งใหม่นี้จะให้บริการแก่ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) จำนวนมาก
ทั้งนี้ BSE เป็นการปฏิรูปตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศจีน (NEEQ) หรือ ที่รู้จักกันในชื่อตลาดหุ้นแห่งที่ 3 (New Third Board) และจะมีบทบาทที่แตกต่างออกไปจากตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้และตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น ขณะที่คณะกรรมการกำกับดูแลหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) กล่าวว่า การจัดตั้ง BSE จะช่วยให้การปฏิรูปโครงสร้างด้านอุปทานทางการเงินมีศักยภาพมากขึ้น และยกระดับระบบตลาดทุน
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ปักกิ่งจะให้บริการแก่ธุรกิจ SME และรัฐบาลจีนจะเดินหน้าสนับสนุนการพัฒนา SME ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมต่อไป ผ่านการปฏิรูปตลาดหลักทรัพย์ปักกิ่ง และกำหนดให้ตลาดหลักทรัพย์ปักกิ่งเป็นแพลตฟอร์มหลักที่ให้บริการแก่ SME ที่มุ่งเน้นนวัตกรรม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ส.ค. 65)
Tags: ตลาดหลักทรัพย์ปักกิ่ง, ตลาดหุ้นจีน, บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์