กลุ่มถ่านหินและโรงกลั่น ปรับตัวขึ้นตอบรับอานิสงส์ปัญหาขาดแคลนก๊าซในยุโรป เมื่อเวลา 10.18 น. โดย BANPU บวก 5.04% หรือเพิ่มขึ้น 0.70 บาท มาที่ 14.60 บาท มูลค่าซื้อขาย 2,860.28 ล้านบาท
- LANNA บวก 5.80% หรือเพิ่มขึ้น 1.30 บาท มาที่ 23.70 บาท มูลค่าซื้อขาย 191.42 ล้านบาท
- AGE บวก 4.26% หรือเพิ่มขึ้น 0.16 บาท มาที่ 4.26 บาท มูลค่าซื้อขาย 123.03 ล้านบาท
- PTTEP บวก 2.22% หรือเพิ่มขึ้น 3.50 บาท มาที่ 161.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,820.35 ล้านบาท
- TOP บวก 1.74% หรือเพิ่มขึ้น 1.00 บาท มาที่ 58.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 208.51 ล้านบาท
- SPRC บวก 1.56% หรือเพิ่มขึ้น 0.20 บาท มาที่ 13.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 43.44 ล้านบาท
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์-รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ราคาหุ้นกลุ่มถ่านหินและโรงกลั่นที่ปรับตัวขึ้น มองเป็นผลมาจากปัญหาการขาดแคลนพลังงานในยุโรปในช่วงฤดูหนาว หลังรัสเซียลดการส่งก๊าซไปยังยุโรปเพื่อตอบโต้มาตรการคว่ำบาตร ทำให้ความต้องการใช้ถ่านหินทดแทนก๊าซเพิ่มขึ้น หนุนราคาถ่านหินปรับตัวขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่มาที่ 445.5 เหรียญสหรัฐ/ตัน (อ้างอิงจากดัชนี นิวคาสเซิล)
ขณะเดียวกันราคาน้ำมันดิบฟิวเจอร์ก็ปรับตัวขึ้นราว 0.8% หลังราคาน้ำมันจบรอบของการปรับฐานและมีการรีบาวด์กลับขึ้นมา จากความต้องการใช้น้ำมันทดแทนก๊าซในช่วงฤดูหนาวนี้เช่นกัน และค่าการกลั่นก็ปรับขึ้นมาอีกครั้งที่ 12.59 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ถือเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 เดือนด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ส.ค. 65)
Tags: AGE, LANNA, PTTEP, SPRC, TOP, หุ้นกลุ่มถ่านหิน, หุ้นไทย