นักเศรษฐศาสตร์ของซิตี้กรุ๊ปคาดการณ์ว่า เงินเฟ้อของอังกฤษมีแนวโน้มพุ่งขึ้นเหนือระดับ 18% ในเดือนม.ค.ปีหน้า โดยได้รับแรงกดดันจากราคาพลังงานในประเทศที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง
รายงานคาดการณ์เงินเฟ้อล่าสุดของซิตี้กรุ๊ประบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) มีแนวโน้มพุ่งขึ้นเหนือระดับ 18% และดัชนีราคาขายปลีก (RPI) พุ่งขึ้นแตะระดับ 21% ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 โดยอิงตามสมมุติฐานที่มีการคำนวณเรื่องนโยบายช่วยเหลือค่าพลังงาน 300 ปอนด์ให้กับภาคครัวเรือนตั้งแต่เดือนต.ค.ถึงปี 2567
ในสัปดาห์นี้ ออฟเจม (Ofgem) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลกฎระเบียบด้านพลังงานของอังกฤษ จะประกาศปรับเพิ่มเพดานค่าไฟฟ้าซึ่งจะมีผลบังคับใช้ต่อภาคครัวเรือนในอังกฤษตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้ โดยซิตี้กรุ๊ปคาดว่าออฟเจมจะปรับขึ้นเพดานค่าไฟฟ้าสู่ระดับ 3,717 ปอนด์ต่อปี (4,389 ดอลลาร์) สำหรับภาคครัวเรือนโดยเฉลี่ย จากปัจจุบันที่ 1,971 ปอนด์
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า เพดานค่าไฟฟ้าเป็นขีดจำกัดที่บริษัทจ่ายไฟฟ้าสามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากลูกค้า แต่ขีดจำกัดนี้ได้พุ่งทะยานขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ เนื่องจากการปรับตัวขึ้นของราคาค้าส่ง ซึ่งหมายความว่าชาวอังกฤษจะเผชิญค่าไฟฟ้าที่พุ่งขึ้นอย่างหนัก
นายเบนจามิน เนบาร์โร เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์โลกและกลุ่มมหภาคของซิตี้กรุ๊ปกล่าวว่า แนวทางการปรับขึ้นเพดานค่าไฟฟ้าในอนาคตจะเป็นประเด็นสำคัญที่สุดสำหรับการประกาศปรับขึ้นเพดานราคาพลังงานในสัปดาห์นี้
“เราคาดว่าอังกฤษจะยังคงปรับขึ้นเพดานค่าไฟฟ้าต่อไป สู่ระดับ 4,567 ปอนด์ในเดือนม.ค. 2566 และ 5,816 ปอนด์ในเดือนเม.ย. 2566 และเราคาดว่าค่าไฟฟ้ายังคงมีความเสี่ยงที่จะอยู่ในช่วงขาขึ้น” นายเนบาร์โรกล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ส.ค. 65)
Tags: ดัชนีราคาผู้บริโภค, ราคาพลังงาน, อังกฤษ, เงินเฟ้อ