พ.ต.ท.กีรป กฤตธีรานนท์ เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยถึงผลวินิจฉัยกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นเรื่องร้องเรียนเมื่อ 5 ส.ค.65 ขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอเรื่องพร้อมด้วยความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาวินิจฉัยเกี่ยวกับการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าครบกำหนดเวลา 8 ปีตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 158 วรรคสี่เมื่อใด และความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเมื่อใดนั้นว่า
กรณีปัญหาตามคำร้องเรียนของนายศรีสุวรรณ เป็นเรื่องที่รัฐธรรมนูญได้กำหนดหน่วยงาน หลักเกณฑ์ และวิธีการเกี่ยวกับการพิจารณาวินิจฉัยการสิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีไว้โดยชัดแจ้งและเป็นการเฉพาะแล้ว โดยกำหนดให้เป็นหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ในการส่งเรื่องในลักษณะดังกล่าวไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัย
กรณีนี้จึงเป็นเรื่องที่ไม่อยู่ในหน้าที่และอำนาจของผู้ตรวจการแผ่นดิน ตามมาตรา 37 (3) แต่เป็นเรื่องที่อยู่ในหน้าที่และอำนาจขององค์กรอิสระอื่นตามมาตรา 37 (4) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. 2560
ดังนั้น ผู้ตรวจการแผ่นดินไม่อาจอาศัยอำนาจตามมาตรา 23 (1) เสนอเรื่องพร้อมด้วยความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยได้ จึงวินิจฉัยยุติเรื่องร้องเรียน ตามมาตรา 37 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. 2560
ทั้งนี้ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้พิจารณาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้ว เห็นว่า พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. 2560 มาตรา 23 (1) กำหนดให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน อาจเสนอเรื่องพร้อมด้วยความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ เมื่อเห็นว่าบทบัญญัติแห่งกฎหมายใดมีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ซึ่ง “บทบัญญัติแห่งกฎหมาย” หมายถึง กฎหมายที่ตราขึ้นโดยองค์กรที่ใช้อำนาจนิติบัญญัติตามกระบวนการที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะตราขึ้นโดยฝ่ายนิติบัญญัติหรือฝ่ายบริหาร ได้แก่ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ, พ.ร.บ., พ.ร.ก.ที่ได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาแล้ว และประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่มีผลใช้บังคับเทียบเท่ากับพระราชบัญญัติ เท่านั้น
แต่กรณีตามคำร้องเรียนนี้ เป็นการร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาการตีความ สถานะความเป็นนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ ครบกำหนดเวลา 8 ปีตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 158 วรรคสี่เมื่อใด และความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเมื่อใด ซึ่งมิใช่เป็นการร้องเรียนเกี่ยวกับบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ผู้ตรวจการแผ่นดินจะพิจารณาเสนอเรื่องพร้อมด้วยความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญได้
ขณะเดียวกัน รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ได้กำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการเกี่ยวกับการพิจารณาวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงไว้เป็นการเฉพาะแล้ว กล่าวคือ ให้ ส.ส. หรือ ส.ว. จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของแต่ละสภา มีสิทธิเข้าชื่อร้องต่อประธานแห่งสภาที่ตนเป็นสมาชิก โดยให้ประธานแห่งสภาที่ได้รับคำร้องส่งคำร้องนั้นไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย และเพื่อประโยชน์แห่งการนี้ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 170 วรรคสาม ยังกำหนดให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีอำนาจส่งเรื่องดังกล่าวให้ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ส.ค. 65)
Tags: การเมือง, กีรป กฤตธีรานนท์, ประยุทธ์ จันทร์โอชา, ศรีสุวรรณ จรรยา, สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน