น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้รับทราบจากรายงานของสำนักงบประมาณ ถึงผลการปฏิบัติงานและการใช้จ่ายงบประมาณ ปี 2565 ณ ไตรมาสที่ 3 ของปีงบประมาณ (1 ต.ค.64 – 30 มิ.ย.65) มีการเบิกจ่ายแล้ว 2.269 ล้านล้านบาท คิดเป็น 73.20% ของวงเงินงบประมาณรวม 3.10 ล้านล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 1.20% และมีการก่อหนี้ผูกพันแล้ว 2.445 ล้านล้านบาท คิดเป็น 78.88% ต่ำกว่าเป้าหมาย 2.86%
โดยนายกรัฐมนตรี ได้มีข้อสั่งการให้ทุกส่วนราชการและหน่วยรับงบประมาณ โดยเฉพาะหน่วยงานที่มีผลการเบิกจ่ายล่าช้าให้เร่งการเบิกจ่ายให้เป็นไปตามเป้าหมาย หรือหากโครงการใดหมดความจำเป็น หรือไม่สามารถดำเนินการได้ทันในปีงบประมาณนี้ (30 ก.ย.65) ก็ให้ดำเนินการตามขึ้นตอน เพื่อปรับเปลี่ยนไปดำเนินโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน เพื่อให้เม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ และขับเคลื่อนการเติบโตในช่วงท้ายของปี
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับรายละเอียดของการเบิกจ่ายงบประมาณนั้น สำนักงบประมาณรายงานว่า จากการเบิกจ่าย 2.269 ล้านล้านบาท และก่อหนี้ผูกพัน 2.445 ล้านล้านบาท จากวงเงินงบประมาณรวม 3.10 ล้านล้านบาทนั้น แยกเป็น ส่วนของงบประมาณรายจ่ายประจำ ที่การเบิกจ่ายแล้ว 1.972 ล้านล้านบาท คิดเป็น 79.17% ของรายจ่ายประจำรวม 2.491 ล้านล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 0.17% มีการก่อหนี้ผูกพันแล้ว 1.989 ล้านล้านบาท คิดเป็น 79.83% ต่ำกว่าเป้าหมาย 1.93%
ส่วนของรายจ่ายเพื่อการลงทุน มีการเบิกจ่ายแล้ว 2.964 แสนล้านบาท คิดเป็น 48.74% ของรายจ่ายลงทุนรวม 6.081 แสนล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 2.74% และมีการก่อหนี้ผูกพันแล้ว 4.560 แสนล้านบาท คิดเป็น 74.99% ต่ำกว่าเป้าหมาย 6.66%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ส.ค. 65)
Tags: งบประมาณรายจ่าย, ประยุทธ์ จันทร์โอชา, เศรษฐกิจไทย, ไตรศุลี ไตรสรณกุล