ข้อมูลกระทรวงการคลังสหรัฐที่เปิดเผยในวันจันทร์ (15 ส.ค.) ระบุว่า จีนปรับลดการถือครองพันธบัตรสหรัฐเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกันในเดือนมิ.ย. โดยนักลงทุนจับตาข้อมูลดังกล่าวอย่างใกล้ชิด ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐเนื่องจากประเด็นเรื่องไต้หวัน
รายงานระบุว่า จีนถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐลดลงสู่ระดับ 9.678 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2553 ซึ่งในครั้งนั้นถือครองอยู่ที่ 8.437 แสนล้านดอลลาร์ โดยในเดือนพ.ค. ปีนี้ จีนถือครองพันธบัตรสหรัฐ 9.808 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งจีนลดการถือครองลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 12 ปีมาแล้วหลายครั้งในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา
คริส เทอร์เนอร์ หัวหน้าฝ่ายตลาดโลกของไอเอ็นจี กล่าวว่า “สิ่งนี้ดูมีแนวโน้มจะเป็นการแทรกแซงตลาดเงินตราต่างประเทศของจีนเพื่อทำให้อัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเงินดอลลาร์กับเงินหยวนมีเสถียรภาพในสถานการณ์ที่ดอลลาร์แข็งค่า ขณะเดียวกัน มีแนวโน้มที่จีนจะปรับลดการถือครองพันธบัตรสหรัฐเพิ่มอีก เนื่องจากอิทธิพลทางภูมิรัฐศาสตร์รุนแรงขึ้นหลังรัสเซียรุกรานยูเครนและการยึดทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของรัสเซีย”
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นับตั้งแต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าสูงสุดเมื่อเทียบเงินหยวนในรอบประมาณ 20 เดือนในช่วงกลางเดือนพ.ค. ดอลลาร์สหรัฐก็ทรงตัวเป็นส่วนใหญ่เมื่อเทียบกับเงินหยวน โดยอ่อนค่าลงประมาณ 1% ส่วนล่าสุดดอลลาร์แข็งค่า 0.5% แตะที่ 6.7755 หยวนต่อดอลลาร์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ส.ค. 65)
Tags: คริส เทอร์เนอร์, จีน, จีนสหรัฐ, พันธบัตรสหรัฐ, สหรัฐ