น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นวงเงิน 1,970 ล้านบาท
สำหรับเป็นเงินอุดหนุนทั่วไป เพื่อชดเชยรายได้ให้แก่กรุงเทพมหานคร (กทม.) จำนวน 1,245 ล้านบาท เมืองพัทยาจำนวน 37 ล้านบาท เทศบาลนคร 30 แห่ง จำนวน 332 ล้านบาท และเทศบาลเมือง 195 แห่ง จำนวน 354 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 227 แห่ง ที่ได้รับผลกระทบจากการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประจำปี 2563 โดยให้สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรงบประมาณให้แก่ กทม., เมืองพัทยา, เทศบาลนคร และเทศบาลเมืองต่อไป
เนื่องจากหน่วยงานดังกล่าว ได้รับผลกระทบจากการลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างบางประเภท สำหรับปีภาษี 2563 ทำให้รายได้จากการจัดเก็บภาษีลดลง 21,890 ล้านบาท เมื่อเทียบกับรายได้ที่จัดเก็บได้ในปี 2562 ซึ่งส่งผลกระทบต่อประมาณการรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในปีงบประมาณ 2563 โดยที่ผ่านมา อปท.กลุ่มนี้ยังไม่ได้รับการชดเชยรายได้ดังกล่าว ขณะที่ อปท.ประเภทอื่นที่ได้รับผลกระทบในลักษณะเดียวกัน ได้แก่ เทศบาลตำบล และ องค์การบริหารส่วนตำบล ได้รับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 งบเงินอุดหนุนทั่วไปเพื่อชดเชยรายได้ดังกล่าวแล้วจำนวน 10,067 ล้านบาท
“ครั้งนี้ อปท. กลุ่มนี้จึงมีความจำเป็นต้องขอรับการจัดสรรงบประมาณ เพื่อให้มีรายได้เพียงพอที่จะดูแล และจัดทำบริการสาธารณะ และกิจการสาธารณะเพื่อประโยชน์ของประชาชนและท้องถิ่น”
น.ส.ไตรศุลี ระบุ
ทั้งนี้ ครม.มีมติเมื่อวันที่ 2 มิ.ย.63 เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาลดภาษีสำหรับที่ดินและสิ่งปลูกสร้างบางประเภท ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.63 โดยมีสาระสำคัญเป็นการลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในอัตรา 90% ให้แก่ที่ดิน หรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม ใช้ประโยชน์เป็นที่อยู่อาศัย ใช้ประโยชน์อื่นนอกจากประกอบเกษตรกรรมและที่อยู่อาศัย และที่ทิ้งไว้ว่างเปล่าหรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพสำหรับปีภาษี 2563
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ส.ค. 65)
Tags: ประชุมครม., ภาษีที่ดิน, ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง, มติคณะรัฐมนตรี, ไตรศุลี ไตรสรณกุล