สมาคมการเดินทางเพื่อธุรกิจโลก (Global Business Travel Association) เปิดเผยรายงานประจำปีในวันจันทร์ (15 ส.ค.) ว่า การใช้จ่ายด้านการเดินทางเพื่อธุรกิจอาจจะไม่ฟื้นตัวสู่ระดับก่อนโควิด-19 ระบาดจนกว่าจะถึงปี 2569 ซึ่งช้ากว่าที่เคยคาดการณ์เอาไว้ถึง 2 ปี เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อ ปัญหาขาดแคลนแรงงาน และประเด็นทางการเมืองเป็นปัจจัยที่ชะลอการฟื้นตัวของภาคส่วนดังกล่าว
รายงานระบุว่า การใช้จ่ายของนักเดินทางเพื่อธุรกิจ ซึ่งเป็นแหล่งรายได้สำคัญสำหรับสายการบินและโรงแรม และเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากโรคระบาดนั้น เริ่มกระเตื้องขึ้นในปีนี้ และคาดว่าการใช้จ่ายทั่วโลกมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเกือบ 34% สู่ระดับ 9.33 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2565
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขข้างต้นนี้ยังต่ำกว่ารายได้การเดินทางเพื่อธุรกิจที่ระดับกว่า 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ระบาด โดยเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงเป็นปัจจัยหนึ่งที่กดดันให้ต้นทุนการเดินทางพุ่งทะยานขึ้น ขณะที่สมาคมการเดินทางเพื่อธุรกิจโลกเปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าต้นทุนการเดินทางจะปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2566
ข้อมูลเบื้องต้นจากเอสทีอาร์ (STR) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการข้อมูลโรงแรมระบุว่า รายได้ต่อห้องว่างในโรงแรมสหรัฐอยู่ที่ 92.36 ดอลลาร์ในช่วงเดือนม.ค.-ก.ค. ซึ่งปรับตัวขึ้นจาก 88.05 ดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปี 2562
สมาคมการเดินทางเพื่อธุรกิจโลกคาดการณ์ว่า การใช้จ่ายด้านการเดินทางเพื่อธุรกิจในสหรัฐจะปรับตัวขึ้น 42% สู่ระดับ 2.134 แสนล้านดอลลาร์ในปีนี้ เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ขณะที่ผู้บริหารสายการบินและโรงแรมของสหรัฐต่างยินดีต่อการฟื้นตัวด้านการเดินทางเพื่อธุรกิจในปีนี้ หลังบริษัทจำนวนมากตัดสินใจระงับการเดินทางเพื่อธุรกิจชั่วคราวในช่วงที่เกิดโรคระบาด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ส.ค. 65)
Tags: การเดินทาง, สมาคมการเดินทางเพื่อธุรกิจโลก, สายการบิน, โรงแรม