นายอภิเษก เทวินทรภักติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เบริล 8 พลัส (BE8) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติให้บริษัท เข้าซื้อกิจการบริษัทเบย์ คอมพิวติ้ง จำกัด (เบย์คอม) ซึ่งเป็นผู้นำ Cyber Security อันดับต้นๆ ของประเทศ โดยเข้าทำรายการซื้อหุ้นสามัญ 80,000 หุ้น หรือคิดเป็น 100% ของทุนจดทะเบียน
การเข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท เบย์ คอมพิวติ้ง จำกัด จะแบ่งการชำระค่าหุ้นออกเป็น 2 ส่วน โดยส่วนแรก BE8 จะออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน 26.05 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 10.83% ของทุนชำระแล้ว ให้กับ บริษัท คีย์เมกเกอร์ เวนเจอร์ แคปปิตอล จำกัด(Holding) เพื่อเป็นการชำระค่าตอบแทนการรับโอนหุ้น เบย์ คอมฯ จำนวน 68,800 หุ้น ราคาหุ้นละ 47.60 บาท หรือคิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 1,239.9 ล้านบาท และส่วนที่ 2 ชำระค่าหุ้นเบย์คอมจำนวน 11,200 หุ้น เป็นเงินสด 200 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งหมด 1,439.9 ล้านบาท
หลังจากกระบวนการซื้อกิจการแล้วเสร็จ ผู้ถือหุ้นเดิมของเบย์คอมจะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทฯจำนวน 26.05 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 10.83 % ของทุนชำระแล้วของบริษัท
บริษัทกำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 12 ต.ค.นี้ เวลา 10.00 น.เพื่อขออนุมัติผู้ถือหุ้นในการทำรายการดังกล่าว รวมทั้งแต่งตั้งบริษัทเวลแคป แอดไวเซอรี่ จำกัด ให้เป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเพื่อให้ความเห็นในเรื่องรายการเข้าซื้อกิจการบริษัทเบย์ คอมพิวติ้ง จำกัด
สำหรับ เบย์ คอมพิวติ้ง เป็นบริษัทที่มีประสบการณ์และเป็นผู้นำเชี่ยวชาญด้าน Cyber Security อันดับต้นๆของประเทศ ก่อตั้งมานานกว่า 25 ปี มีประสบการณ์ทำงานกว่า 330 โครงการ มีลูกค้ากว่า 100 ราย โดยมีทีมงานและพนักงานเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Cyber Security มากถึง 175 คน
นายอภิเษก กล่าวว่า การทำธุรกิจ Digital Transformation จำเป็นต้องมี Cyber Security ซึ่งตลาด Cyber Security มีขนาดใหญ่และมีโอกาสเติบโตสูง เนื่องจากตอนนี้ทุกธุรกิจมีการเก็บข้อมูลบนระบบ digital ทำให้มีความเสี่ยงของการโดนโจรกรรมข้อมูลหรือการโดนโจมตีทาง Cyber นอกจากนี้ยังมีกฎหมายที่จะผลักดันเพิ่มเติมทั้ง พ.ร.บ.ไซเบอร์และ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ดังนั้น การเพิ่มศักยภาพและความเชี่ยวชาญด้าน Cyber Security ก็จะทำให้ BE8 สามารถตอบโจทย์ของลูกค้าได้ดีขึ้น
“เราวางแผนจะสร้าง Digital Transformation Ecosystem ที่สมบูรณ์แบบ การที่ BE8 เข้าซื้อกิจการเบย์คอม จะทำให้มีความพร้อมในการทำธุรกิจ มีความแข็งแกร่งที่จะแข่งขัน ก้าวเป็นผู้นำอุตสาหกรรมอย่างมั่นคงและยั่งยืน”
นายอภิเษก กล่าว
ส่วนผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/65 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 30.01 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 35.55% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิ 22.14 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้รวม 136.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48.95% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 64 ที่มีรายได้รวม 91.69 ล้านบาท
สาเหตุที่รายได้และกำไรปรับตัวดีขึ้นเป็นผลมาจากการที่บริษัทได้เริ่มรับรู้รายได้จากงานโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ และการขยายฐานลูกค้าทั้งในส่วนการให้คำปรึกษาด้านกลยุทธ์และเทคโนโลยี โดยเฉพาะลูกค้าเดิมมีการลงทุนเทคโนโลยีเพิ่มอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้บริษัทยังมีรายได้จากการขายและการให้เช่าใช้สิทธิการใช้งาน ขณะเดียวกันยังมีการขยายฐานลูกค้าใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นทั้งภาครัฐและเอกชน
ส่วนผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของ ปี 65 บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 53.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 37.15%
“ภาพรวมไตรมาส 2/65 ของ BE8 ยังเติบโตต่อเนื่อง กำไรสุทธิทำสถิตินิวไฮ ธุรกิจของเราจะเติบโตทั้งจากธุรกิจหลักและธุรกิจที่บริษัทเข้าไปร่วมทุน โดยนอกเหนือจากแผนการเข้าไปซื้อกิจการเบย์คอมแล้ว ขณะนี้บริษัทอยู่ในระหว่างการควบรวมกิจการกับบริษัท เอคซเทนด์ ไอที รีซอร์ส จำกัด หรือ X10 ยักษ์ใหญ่ด้านโครงสร้างการเชื่อมต่อระบบ Technology Integration และมีแผนการเข้าร่วมลงทุนกับบริษัท วานิลลา แอนด์ เฟรนด์ และ บริษัท เทคซอส มีเดีย จำกัด เพื่อต่อยอดธุรกิจสร้าง Ecosystem ปีนี้น่าจะเป็นก้าวสำคัญของ BE8 สู่การเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยใช้เทคโนโลยีมาขับเคลื่อนสร้างรายได้รูปแบบใหม่ที่อยู่ล้ำหน้า Disruption ขึ้นแท่นผู้นำธุรกิจที่ปรึกษาด้าน Digital Transformation แบบครบวงจร”
นายอภิเษก กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ส.ค. 65)
Tags: BE8, หุ้นไทย, อภิเษก เทวินทรภักติ, เบริล 8 พลัส