EGCO เผย Q2/65 รับผล FX จากบาทอ่อนค่า-ปรับมูลค่ายุติธรรม แม้รายได้โต

นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ผลิตไฟฟ้า (EGCO) เปิดเผยถึงผลประกอบการในไตรมาสที่ 2/65 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 65 ว่า เอ็กโก กรุ๊ป มีรายได้รวมทั้งสิ้น 15,217 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรจากการดำเนินงาน 3,219 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้า “บีแอลซีพี” และโรงไฟฟ้า “น้ำเทิน 2” รวมทั้งการรับรู้รายได้จากการลงทุนในบริษัท “เอเพ็กซ์ คลีนเอ็นเนอร์ยี โฮลดิ้งส์” ประเทศสหรัฐอเมริกา

อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการในไตรมาสที่ 2/65 ได้รับผลกระทบจากการแปลงมูลค่าหนี้สินสกุลเงินต่างประเทศเป็นสกุลเงินบาทอันเนื่องมาจากการอ่อนค่าของค่าเงินบาท และผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรม (Fair value) ของเครื่องมือทางการเงิน ซึ่งไม่มีผลกระทบต่อกระแสเงินสดและการดำเนินงานของบริษัทแต่อย่างใด

อนึ่ง EGCO แจ้งกำไรไตรมาส 2/65 ขาดทุนสุทธิ 776.88 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 1.48 บาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1.51 พันล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 2.87 บาท

ขณะที่ใน 6 เดือนแรกของปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ 3,339 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

“การดำเนินงานในไตรมาส ที่ 2/65 มีความก้าวหน้าและเป็นไปตามแผนงาน เอ็กโก กรุ๊ป ได้ติดตามสถานการณ์ราคาเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นอันเนื่องมาจากผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนอย่างใกล้ชิด และมีการบริหารจัดการต้นทุนเชื้อเพลิงที่ดีเพื่อให้การเดินเครื่องผลิตไฟฟ้ามีประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ เอ็กโก กรุ๊ป ยังมีความก้าวหน้าทางธุรกิจที่สำคัญจนถึงปัจจุบัน ได้แก่ การลงนามสัญญาเงินกู้เพื่อพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้า “เอ็กโก โคเจนเนอเรชั่น ส่วนขยาย” กำลังผลิตสุทธิ 74 เมกะวัตต์ จังหวัดระยอง และความสำเร็จในการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าและโครงการพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง 2 โครงการ ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ “น้ำเทิน 1” กำลังผลิตติดตั้งรวม 650 เมกะวัตต์ ใน สปป.ลาว และโครงการขยายระบบขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ “ทีพีเอ็น” จังหวัดสระบุรี-ขอนแก่น ซึ่งเตรียมพร้อมจะเดินเครื่องเชิงพาณิชย์และรับรู้รายได้ต่อไป” นายเทพรัตน์ กล่าว

สำหรับทิศทางการลงทุนครึ่งปีหลังของปี 65 เอ็กโก กรุ๊ป ยังคงแสวงหาโอกาสการลงทุนใหม่อย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิด “Cleaner, Smarter and Stronger to Drive Sustainable Growth” โดยมุ่งขยายธุรกิจผลิตไฟฟ้า ซึ่งเป็นธุรกิจกลางน้ำ ในพื้นที่ที่มีฐานธุรกิจอยู่แล้วโดยเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกา ตลอดจนขยายธุรกิจเชื้อเพลิงและสาธารณูปโภค ผ่านการดำเนินโครงการ “ทีพีเอ็น” และพัฒนาธุรกิจเกี่ยวกับนวัตกรรมไฟฟ้าและธุรกิจ New S-Curve อย่างต่อเนื่อง ผ่านการลงทุนในบริษัท “อินโนพาวเวอร์” เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและก้าวเข้าสู่การเป็นองค์กรคาร์บอนต่ำและสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนในอนาคต

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ส.ค. 65)

Tags: , , , ,
Back to Top