คณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FTC) กำลังตรวจสอบบริษัทผู้ประกอบการบิตมาร์ท (BitMart) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี หลังจากแพลตฟอร์มแห่งนี้ถูกแฮกข้อมูลในเดือนธ.ค. 2564 ซึ่งส่งผลให้ลูกค้าสูญเสียเงินจำนวนมากถึง 150-200 ล้านดอลลาร์ โดยนับเป็นครั้งแรกที่ FTC เข้าตรวจสอบแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทฯ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การตรวจสอบดังกล่าวได้ถูกเปิดเผยในวันพุธ (10 ส.ค.) เมื่อ FTC ปฏิเสธคำร้องของบริษัท Bachi.Tech Corporation และบริษัท Spread Technologies ซึ่งเป็นผู้ประกอบการของบิตมาร์ทที่ต้องการให้ FTC ยุติความพยายามที่จะบังคับให้บริษัททำการเปิดเผยข้อมูล โดยทั้งสองบริษัทระบุว่า การขอเอกสารของ FTC นั้นมีขอบข่ายที่กว้างมากเกินไป และข้อมูลบางส่วนนั้นอยู่ในต่างประเทศ
ในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา FTC ได้ส่งหมายเรียกบริษัทผู้ประกอบการของบิตมาร์ท เพื่อต้องการทราบรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่บริษัทบอกกับลูกค้าในเรื่องความปลอดภัยของสินทรัพย์คริปโทฯ และวิธีการที่บริษัทรับมือกับการร้องเรียนของลูกค้า โดย FTC คาดหวังว่า รายละเอียดเหล่านี้จะสามารถชี้ชัดได้ว่า บริษัทดังกล่าวมีการดำเนินธุรกิจที่ไม่เป็นธรรมและหลอกลวงผู้บริโภคหรือไม่
ทั้งนี้ FTC มีหน้าที่ปกป้องผู้บริโภค และเคยใช้มาตรการลงโทษบริษัทหลายสิบแห่งเกี่ยวกับการปฏิบัติทางไซเบอร์ที่หละหลวม อาทิบริษัทวินด์แฮม โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท ไปจนถึงบริษัทอูเบอร์ เทคโนโลยีส์
หาก FTC พบว่าบริษัทผู้ประกอบการบิตมาร์ทมีพฤติกรรมชี้นำผู้บริโภคในทางที่ผิดเกี่ยวกับความปลอดภัยทางไซเบอร์ หรือไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายด้านบริการการเงิน FTC ก็สามารถลงโทษด้วยการปรับ และสั่งให้บริษัทเหล่านี้เปลี่ยนแปลงแนวทางการดำเนินงาน
เมื่อวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้ลงนามในคำสั่งบริหาร เพื่อสั่งการให้หน่วยงานทั้งหมดของรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งรวมถึง FTC ทำการประเมินความเสี่ยงของคริปโทเคอร์เรนซี โดยคำสั่งดังกล่าวมุ่งเน้นไปที่การกำหนดให้หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐทำการศึกษา 6 ประเด็นซึ่งได้แก่ การคุ้มครองผู้บริโภคและนักลงทุน, เสถียรภาพด้านการเงิน, การทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมาย, ความสามารถด้านการแข่งขันของสหรัฐในตลาดโลก, โอกาสในการเข้าถึงบริการทางการเงิน และนวัตกรรมที่มีความรับผิดชอบ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ส.ค. 65)
Tags: BitMart, Cryptocurrency, คริปโทเคอร์เรนซี, บิตมาร์ท, สกุลเงินดิจิทัล, สินทรัพย์ดิจิทัล