รายงานข่าวจากรัฐสภา เปิดเผยว่า ในการประชุมร่วมรัฐสภา วาระพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่…) พ.ศ…. วาระสอง ต่อเนื่องในมาตรา 24/1 ซึ่งกมธ.ได้เพิ่มขึ้นใหม่ โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับวิธีคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยมีการอภิปรายทั้งจาก นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา นายชูศักดิ์ ศิรินิล ในฐานะกรรมาธิการ นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา ในฐานะกรรมาธิการ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ที่อภิปรายไม่เห็นด้วยกับเนื้อหาที่กมธ.เสียงข้างมากเพิ่มเติมเนื้อหา
ทั้งนี้สมาชิกส่วนใหญ่ต่างอภิปรายไปในทิศทางเดียวกันว่า มาตรา 24/1 นั้นขัดต่อรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไข
เมื่ออภิปรายแล้วเสร็จ ก่อนลงมติมาตรา 24/1 ได้มีการตรวจสอบองค์ประชุมเพื่อลงมติ ซึ่ง นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นขอให้กล้องบันทึกภาพภายในประชุมเป็นวงกว้าง เพราะกังวลว่า จะมีการเสียบบัตรแทนกัน ซึ่งเมื่อแสดงผลพบว่ามี ผู้แสดงตนรวม 367 คน
ทั้งนี้ ก่อนลงมติ นายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ใช้เอกสิทธิ์สมาชิกรัฐสภาเสนอให้ตรวจสอบองค์ประชุมด้วยการขานชื่อ เพื่อตรวจสอบว่า มีการกดบัตรแทนกันหรือไม่ แต่ นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ประท้วงข้อเสนอของนายจุลพันธ์ ระบุว่า การตรวจสอบองค์ประชุมเสร็จสิ้นไปแล้ว การเสนอให้ตรวจสอบองค์ประชุมด้วยการขานชื่ออีก ถือเป็นการเจตนาที่จะเตะถ่วงมากเกินไป เพราะต้องใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมง จึงเสนอญัตติว่าไม่เห็นด้วยกับนายจุลพันธ์
แต่นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ในฐานะรองประธานรัฐสภา เห็นด้วยจึงได้ให้มีการนับองค์ประชุม ด้วยการขานชื่อสมาชิกทั้งหมดที่มี 727 คน โดยเริ่มในเวลา 14.14 น. และหลังใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงขานชื่อเสร็จ ส่วนรายชื่อส่วนใหญ่ที่ไม่ขานนั้น เป็นในส่วนของพรรคเพื่อไทย และพรรคพลังประชารัฐ โดยเฉพาะบรรดารัฐมนตรี รวมถึงสมาชิกวุฒิสภา บางส่วน
แต่มีส.ส. บางส่วนที่มาขอนับองค์ประชุมภายหลัง ทำให้กระบวนการล่าช้าออกไป จนกระทั่ง นายพรเพชร ได้สั่งพรรคการประชุม 3 นาที จนสุดท้ายประธานรัฐสภาได้แจ้งผลการนับองค์ประชุม 403 คน ถือว่า ครบองค์ประชุม ซึ่งเกินกึ่งหนึ่งคือ 364 คน แต่เมื่อจะมีการลงมติมาตรา 24/1 ปรากฎว่า คะแนนไม่ครบ ประธานรัฐสภา จึงสั่งปิดประชุม
ด้านนายสมชัย ศรีสุทธิยากร ในฐานะกมธ.พิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “สภาล่ม 16.15 น. ขาด 22 คน”
ขณะที่นายสมชาย แสวงการ ส.ว. ในฐานะกมธ.ฯ ยอมรับว่า หากการประชุมรัฐสภาไม่สามารถพิจารณาได้แล้วเสร็จในวาระสาม จะทำให้ไม่มีเวลาที่รัฐสภาจะนัดประชุมได้อีก และกรอบเวลา 180 วันนั้น มีข้อถกเถียงว่าจะนับวันสุดท้ายวันที่ 15 ส.ค.หรือไม่ โดยส่วนตัวมองว่าจะครบกรอบเวลาดังกล่าว ที่เวลาเที่ยงคืนของวันที่ 14 ส.ค. ดังนั้นหากมีข้อเรียกร้องให้นัดประชุมวันที่ 15 ส.ค. จะถือว่าเกินเวลา อีกทั้งในวันดังกล่าววุฒิสภามีการประชุม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ส.ค. 65)
Tags: การเมือง, การเลือกตั้ง, จุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์, ชลน่าน ศรีแก้ว, พรเพชร วิชิตชลชัย, รัฐสภา, สมชัย ศรีสุทธิยากร