KSL คาดปริมาณอ้อยเข้าหีบปี 66 เพิ่มขึ้นแตะ 8.20 ล้านตันอ้อย ยอดขายโตตามราคาน้ำตาล

นายชลัช ชินธรรมมิตร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.น้ำตาลขอนแก่น (KSL) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดปริมาณอ้อยเข้าหีบปี 66 ที่จะเริ่มฤดูกาลหีบอ้อยในช่วงเดือน พ.ย.65 ไปจนถึงเดือน มี.ค.66 จะเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 8.20 ล้านตันอ้อย และมีปริมาณการผลิตน้ำตาลราว 9 แสนตัน จากปี 65 ที่มีปริมาณอ้อยเข้าหีบอยู่ที่ 6.56 ล้านตันอ้อย คิดเป็นปริมาณการผลิตน้ำตาลประมาณ 6.9-7 แสนตัน เป็นผลจากสภาวะอากาศที่เอื้อต่ออ้อย

ขณะที่คาดปริมาณการขายในปี 66 ยังคงเติบโตต่อเนื่อง จากราคาขายน้ำตาลที่ปรับตัวขึ้นตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น โดยคาดการณ์ราคาน้ำตาลจะอยู่ที่ราว 18 เซ็นต์/ปอนด์ บวก-ลบ ได้รับปัจจัยหนุนจากราคาพลังงาน เงินเฟ้อ และสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน รวมถึงความตึงเครียดระหว่างสหรัฐ จีน ไต้หวัน ขณะเดียวกันผู้ผลิตและส่งออกน้ำตาลรายใหญ่ที่สุดในโลก อย่าง อินเดีย ก็ยังไม่มีแนวโน้มชัดเจนว่าจะมีการส่งออกของรัฐบาลอินเดีย และดีมานด์ของเวียดนามก็กลับเข้ามาในตลาด โดยมีการนำเข้าน้ำตาล ราว 1-2 ล้านตัน ซึ่งถือเป็นปัจจัยหนุนต่อราคาน้ำตาล

ส่วนปัจจัยลบที่กดดันต่อราคาน้ำตาล คือ สถานะการคาดการณ์เกินดุลในปี 66 จะอยู่ใกล้ 2 ล้านตัน, การปรับภาษีพลังงานในบราซิล โดยเฉพาะเอทานอล จะส่งผลให้ราคาปรับตัวลงมา และดึงราคาน้ำตาลลงมาอยู่ใกล้ราคาเอทานอล, การเติบโตทางเศรษฐกิจ และเทรนด์การบริโภคน้ำตาลที่ลดลง รวมถึงค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ส่งผลให้ Sugar Currency ที่เป็นผู้ผลิตอ่อนค่า อีกทั้งปัจจุบันกองทุนยังคงถือสถานะขายสุทธิ

อย่างไรก็ตามบริษัท อ้อยและน้ำตาลไทย จำกัด (อนท.) (TCSC) ได้มีการทำสัญญาขายน้ำตาลล่วงหน้าในปี 66 ไปแล้วถึง 50% เป็นราคาน้ำตาลที่ประมาณ 20.20 เซนต์/ปอนด์ มีค่าเฉลี่ยของค่าเงินบาทอยู่ที่ 34.80 บาท/ดอลลาร์ โดยราคาน้ำตาลใกล้เคียงกับปีก่อน แต่ค่าเงินบาทดีขึ้นประมาณ 2 บาท ส่งผลให้ผู้ผลิตน้ำตาลหรือโรงงานน้ำตาลมีผลตอบแทนที่ดีขึ้น

นายชลัช กล่าวว่า สำหรับปริมาณการขายในครึ่งปีหลังของปี 65 คาดว่าจะเติบโตได้ต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก จากอ้อยที่เพิ่มขึ้น และราคาขายที่เพิ่มขึ้น ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยบวกต่อบริษัทฯ ขณะที่ธุรกิจเอทานอล ยอมรับว่าครึ่งปีแรกยังไม่ค่อยดี จากวัตถุดิบปรับตัวขึ้นสูง และสถานการณ์ก็ไม่ได้ทำให้ราคาเอทานอลปรับตัวขึ้นไปตามต้นทุน แต่ครึ่งปีหลังคาดว่าราคาจะค่อยๆ ขยับขึ้น ส่งผลดีต่อผลประกอบการของเอทานอลดีกว่าครึ่งปีแรก หรือกลับมามีกำไรที่ดีขึ้นพอสมควร ทำให้ผลการดำเนินงานในปีนี้ไม่น่าเป็นห่วง

ด้านงบลงทุนปี 65 ที่จะสิ้นสุดต.ค.65 วางไว้ที่ 300 ล้านบาท แต่อาจจะใช้ไม่ถึง ส่วนปี 66 วางไว้ที่ 400 ล้านบาท เป็นการลงทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเป็นหลัก หากมีโครงการใดที่มีรีเทิร์นได้เร็วก็อาจจะมีการลงทุนเพิ่มเติม

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ส.ค. 65)

Tags: , , , ,
Back to Top