บริษัทซีเอ็มอี กรุ๊ป (CME Group) ซึ่งเป็นตลาดซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์และสัญญาฟิวเจอร์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกประกาศรุกตลาดคริปโทเคอร์เรนซีด้วยการเปิดตัวซื้อขายสัญญาบิตคอยน์ฟิวเจอร์ และอีเธอร์ฟิวเจอร์ในวันที่ 29 ส.ค.นี้
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของ CME สะท้อนให้เห็นว่า บริษัทกำลังให้ความสนใจในตลาดคริปโทฯ แม้ตลาดแห่งนี้ชะลอตัวลงก็ตาม โดยราคาบิตคอยน์ร่วงลงราว 50% แล้วนับตั้งแต่ต้นปีนี้ ขณะที่ราคาอีเธอร์ดิ่งลง 56%
ทั้งนี้ CME เชื่อมั่นว่า สัญญาบิตคอยน์ฟิวเจอร์ และอีเธอร์ฟิวเจอร์ จะช่วยให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงตลาดคริปโทฯ ได้ง่ายขึ้น และจะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถประกันความเสี่ยง (hedge) สำหรับการลงทุนเงินดิจิทัลในตลาดส่งมอบทันที
“ความไม่แน่นอนที่ยังคงเกิดขึ้นในตลาดคริปโทฯ ประกอบกับการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งและสภาพคล่องที่มีอยู่มากของสัญญาบิตคอยน์ฟิวเจอร์และอีเธอร์ฟิวเจอร์ของเรา จะทำให้ความต้องการโซลูชั่นบริหารจัดการความเสี่ยงของนักลงทุนสถาบันนอกเขตแดนสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น” นายทิม แมคคอร์ท หัวหน้าฝ่ายหลักทรัพย์และผลิตภัณฑ์แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของ CME กล่าว
นายแมคคอร์ทยังกล่าวด้วยว่า นักลงทุนนิยมซื้อขายสัญญาบิตคอยน์ฟิวเจอร์และอีเธอร์ฟิวเจอร์ในรูปสกุลเงินยูโรมากเป็นอันดับสองรองจากสัญญาในรูปสกุลเงินดอลลาร์ และระบุว่า นับตั้งแต่ต้นปีนี้ ภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (EMEA) มีการซื้อขายบิตคอยน์ฟิวเจอร์และอีเธอร์ฟิวเจอร์ในสัดส่วน 28% ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 2% เมื่อเทียบกับปี 2564
ทั้งนี้ CME ระบุว่า ผลิตภัณฑ์บิตคอยน์ฟิวเจอร์และอีเธอร์ฟิวเจอร์จะมีขนาด 5 บิตคอยน์ และ 50 อีเธอร์ต่อสัญญา โดยจะมีการชำระเป็นเงินสดในแต่ละวันตามอัตราอ้างอิง CME CF Bitcoin-Euro Reference Rate และ CME CF Ether-Euro Reference Rate ตามลำดับ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ส.ค. 65)
Tags: bitcoin, Cryptocurrency, คริปโทเคอร์เรนซี, บิตคอยน์, บิตคอยน์ฟิวเจอร์, บิทคอยน์, สินทรัพย์ดิจิทัล, อีเธอร์ฟิวเจอร์