ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของ บมจ. บ้านปู (BANPU) ที่ระดับ “A+” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” พร้อมกันนี้ ทริสเรทติ้งได้จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 6 พันล้านบาท และหุ้นกู้สำรองเพื่อการเสนอขายเพิ่มเติม (Greenshoe) ในวงเงินไม่เกิน 4 พันล้านบาทของบริษัทที่ระดับ “A+” ด้วยเช่นกัน โดยเงินที่ได้รับจากการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้จะนำไปใช้ชำระคืนเงินกู้ของบริษัท และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
อันดับเครดิตยังคงสะท้อนถึงความเป็นผู้นำของบริษัทในอุตสาหกรรมถ่านหินในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตลอดจนการมีรายได้ที่แน่นอนจากธุรกิจผลิตไฟฟ้า และการปรับกลยุทธ์สู่การเป็นผู้ผลิตพลังงานสะอาดแบบครบวงจรของบริษัท ในขณะเดียวกัน อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงความผันผวนของราคาถ่านหินและอุปสงค์ถ่านหินที่ชะลอตัวในระยะยาวซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากความพยายามในการลดมลพิษทางอากาศของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกอีกด้วย
ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2565 บริษัทมีผลการดำเนินงานดีกว่าที่ทริสเรทติ้งประมาณการจากราคาถ่านหินและก๊าซธรรมชาติที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก บริษัทมีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ที่ 433 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 63% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA ดีขึ้นมาอยู่ที่ 3.6 เท่า (ปรับเป็นอัตราส่วนเต็มปีด้วยตัวเลขย้อนหลัง 12 เดือน) จาก 4.5 เท่า ณ สิ้นปี 2564 ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งกว่าที่คาด ประกอบกับได้รับเงินจากการขายเงินลงทุนใน Sunseap Group Pte. Ltd. (Sunseap) จำนวน 347.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ น่าจะช่วยสนับสนุนโครงสร้างเงินทุนของบริษัทได้
ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2565 บริษัทได้บรรลุผลสำเร็จในการซื้อสินทรัพย์แหล่งก๊าซธรรมชาติในสหรัฐอเมริกามูลค่า 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และได้ลงทุนในกองทุน Healthcare ในสหรัฐอเมริกามูลค่า 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าสินทรัพย์แหล่งก๊าซธรรมชาติใหม่นี้จะสามารถสร้าง EBITDA ให้แก่บริษัทได้ทันทีประมาณ 150-180 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี
ณ เดือนมีนาคม 2565 บริษัทมีภาระหนี้รวมอยู่ที่ประมาณ 6.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยหนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อนประกอบด้วยหนี้ของบริษัทย่อยซึ่งเป็นหนี้ที่มีหลักประกันมูลค่า 439 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และหนี้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันมูลค่า 770 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่อัตราส่วนหนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อนต่อภาระหนี้ทั้งหมดของบริษัทอยู่ที่ระดับประมาณ 20.1% ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2565
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนความคาดหวังของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะยังคงความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมถ่านหินต่อไป โดยเงินปันผลรับจากธุรกิจผลิตไฟฟ้าที่มั่นคงและกำไรที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจก๊าซธรรมชาติจะช่วยบรรเทาผลกระทบจากความผันผวนของอุตสาหกรรมถ่านหินลงได้บางส่วน ในขณะที่สภาพคล่องทางการเงินที่ดีจากการมีวินัยทางการเงินและการบริหารเงินสดที่ระมัดระวังจะช่วยให้บริษัทสามารถประคองตัวผ่านพ้นสถานการณ์ที่อุตสาหกรรมมีความผันผวนไปได้
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง อันดับเครดิตของบริษัทอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหากบริษัทมีสถานะทางการเงินที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหรือมีกระแสเงินสดที่มีเสถียรภาพมากขึ้น ในทางตรงกันข้าม อันดับเครดิตอาจถูกปรับลดลงหากบริษัทมีผลการดำเนินงานอ่อนแอกว่าที่ทริสเรทติ้งประมาณการไว้เป็นอย่างมาก ซึ่งกรณีดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้หากราคาถ่านหินและก๊าซธรรมชาติลดลงจากระดับที่คาดการณ์ไว้อย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ การลงทุนโดยการก่อหนี้เพิ่มจนส่งผลให้โครงสร้างเงินทุนและกระแสเงินสดเพื่อการชำระหนี้ของบริษัทอ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญและต่อเนื่องก็จะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่อาจส่งผลให้มีการปรับลดอันดับเครดิตลงได้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ส.ค. 65)
Tags: BANPU, ทริสเรทติ้ง, หุ้นกู้