สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) เปิดเผยว่า ตามที่วันที่ 30 กรกฎาคม 2565 เกิดเหตุเครื่องบินของสายการบินนกแอร์ประสบเหตุไถลออกนอกทางวิ่ง (Runway Excursion) ขณะที่นักบินกำลังนำเครื่องบินลงจอด ณ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย ซึ่งต่อมาแถลงการณ์ของสายการบินระบุว่าไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และสายการบินได้อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารทั้งเรื่องสัมภาระ อาหาร เครื่องดื่ม และจะเร่งดำเนินการตรวจสอบหาสาเหตุต่อไปนั้น
สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลด้านความปลอดภัยการบินพลเรือนและการคุ้มครองสิทธิผู้โดยสารสายการบิน ได้เข้าตรวจสอบการดำเนินการของสายการบิน ท่าอากาศยาน และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์นี้ ว่าดำเนินการตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งคำนึงถึงผู้โดยสารเป็นสำคัญหรือไม่
โดยจากการตรวจสอบ CAAT ขอชี้แจงข้อสรุปเบื้องต้น ดังนี้
1. เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวเข้าข่ายอุบัติการณ์รุนแรง (Serious Incident) ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุและอุบัติการณ์ของอากาศยาน (สกอ.) จึงได้เข้าพื้นที่เพื่อดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดแล้ว ทั้งนี้ ในส่วนของ CAAT ได้รวบรวมข้อมูลและประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการด้านความปลอดภัยในเบื้องต้น เช่น การประเมินความพร้อมด้านมาตรฐานความปลอดภัยก่อนสนามบินกลับมาเปิดให้บริการ การประเมินสาเหตุของการเกิดอุบัติการณ์ ฯลฯ เพื่อให้ปฏิบัติการบินยังคงเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยและมั่นใจว่าผู้ดำเนินการทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ตามกฎหมาย
2. CAAT อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของผู้เกี่ยวข้อง ทั้งก่อนเกิดเหตุ ระหว่างเกิดเหตุ และภายหลังจากเกิดอุบัติการณ์ โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับการอพยพผู้โดยสารออกจากเครื่องบิน และการดูแลผู้โดยสารที่เดินทางไปกับอากาศยานที่ประสบเหตุ
3. จากเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้สนามบินแม่ฟ้าหลวงเชียงราย (ทชร.) ต้องปิดการให้บริการลงชั่วคราว จนกว่าการเก็บกู้อากาศยานและการเตรียมความพร้อมให้เกิดความปลอดภัยในการกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งจะแล้วเสร็จ ล่าสุด ทชร. ได้ออกประกาศนักบิน (NOTAM) เพื่อแจ้งปิดให้บริการไปจนถึง วันพุธที่ 3 สิงหาคม 2565
ทั้งนี้ หากการดำเนินการเสร็จเร็วกว่าที่ประกาศจะได้มีการแจ้งปรับเลื่อนอีกครั้งหนึ่ง โดยต้องให้มั่นใจว่าสภาพพื้นที่ทางวิ่งและบริเวณที่เกิดเหตุปลอดภัยและกลับสู่สภาพปกติแล้ว จึงจะสามารถกลับมาเปิดให้บริการได้ ซึ่ง CAAT จะติดตามอย่างใกล้ชิด ให้การปรับสภาพทางวิ่งของท่าอากาศยานเป็นไปตามมาตรฐานก่อนกลับมาเปิดให้บริการตามปกติ
4. ในระหว่างนี้ CAAT ได้ประสานกับสายการบินเพื่อลดผลกระทบกับผู้โดยสารให้มากที่สุด โดยสายการบินทั้งหมดที่ยกเลิกเที่ยวบินในวันที่ 31 ก.ค. 2565 ได้มีมาตรการช่วยเหลือผู้โดยสารโดยการให้เปลี่ยนเส้นทางบินไปยังสนามบินเชียงใหม่แทน และจัดหาการเดินทางต่อให้ หรือคืนค่าโดยสาร หรือให้เก็บเครดิตไว้ตามมาตรการ
ทั้งนี้ CAAT กำลังเร่งรัดประสานกับสายการบินที่มีเที่ยวบินประจำไปยังท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย ให้มีการเร่งรัดออกมาตรการ ปรับเส้นทางและตารางการบิน และเพิ่มช่องทางการสื่อสารกับผู้โดยสาร เพื่อลดปัญหาหรือผลกระทบให้มากที่สุด
สำหรับผู้โดยสารสายการบินที่จะเดินทางออกจากและเดินทางเข้าท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย ซึ่งยกเลิกเที่ยวบินทั้งหมดในวันที่ 31 กรกฎาคม และวันต่อ ๆ ไปจนกว่าสนามบินจะกลับมาเปิดให้บริการได้ตามปกติ ขอให้ติดต่อกับสายการบินที่จะเดินทางด้วย เพื่อขอรับสิทธิตามมาตรการของสายการบิน เช่น ให้เปลี่ยนแปลงเที่ยวบินไปยังจังหวัดเชียงใหม่และสายการบินอาจจัดรถรถรับส่งในการเดินทางต่อไปหรือจ่ายเงินเป็นเงินค่ารถให้กับผู้โดยสาร หรือคืนเงินค่าบัตรโดยสาร หรือเปลี่ยนแปลงเที่ยวบิน หรือให้ผู้โดยสารสามารถเก็บเครดิตไว้ได้ ทั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของแต่ละสายการบิน
อย่างไรก็ตาม CAAT จะตรวจสอบอย่างเคร่งครัดให้สายการบินดูแลสิทธิผู้โดยสารให้เป็นไปตามประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่องการคุ้มครองสิทธิของผู้โดยสารที่ใช้บริการสายการบินของไทยในเส้นทางประจำภายในประเทศ พ.ศ. 2553
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ส.ค. 65)
Tags: CAAT, นกแอร์, สำนักการบินพลเรือน