นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นทั่วโลกที่ดีดขึ้นในช่วงที่บ้านเราหยุดยาว ตอบรับเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ตามคาด และค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อเงินทุนไหลเข้า โดยเฉพาะในหุ้นขนาดใหญ่ รวมทั้งราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวหนุนกลุ่มพลังงาน โดยให้แนวรับ 1,568-1,572 จุด และแนวต้าน 1,585-1,598 จุด
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นทั่วโลกที่ดีดตัวขึ้นในช่วงที่บ้านเราหยุดยาวเมื่อสัปดาห์ก่อน ตอบรับผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามคาดการณ์ที่ 0.75% และมีแนวโน้มชะลออัตราการปรับขึ้นในระยะต่อไป
ขณะที่ค่าเงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่าได้บ้าง โดยเช้าวันนี้มาอยู่ที่ 36.17 บาท/ดอลลาร์ มองเป็น Sentiment เชิงบวกต่อเงินทุนไหลเข้า (FundFlow) ตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ เช่นเดียวกับตลาดหุ้นในเอเชียในช่วงที่ผ่านมา อีกทั้งราคาน้ำมันดิบก็ฟื้นตัวขึ้นคาดว่าจะช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานด้วย
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวบวกเล็กน้อย
วันนี้ให้แนวรับที่ 1,568-1,572 จุด และแนวต้าน 1,585-1,598 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (29 ก.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด 32,845.13 จุด เพิ่มขึ้น 315.50 จุด หรือ +0.97%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,130.29 จุด เพิ่มขึ้น 57.86 จุด หรือ +1.42% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,390.69 จุด เพิ่มขึ้น 228.09 จุด หรือ +1.88%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,813.82 จุด เพิ่มขึ้น 12.18 จุด หรือ +0.04%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,026.60 จุด ลดลง 129.91 จุด หรือ -0.64% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,246.62 จุด ลดลง 6.62 จุด หรือ -0.2%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (27 ก.ค.34.) ที่ระดับ 1,576.41 จุด เพิ่มขึ้น 23.23 จุด, +1.50%
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,537.21 ล้านบาท เมื่อวันที่ 27 ก.ค.65
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย. (29 ก.ค.) พุ่งขึ้น 2.2 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 98.62 ดอลลาร์/บาร์เรล และในรอบสัปดาห์นี้ เพิ่มขึ้น 4.1% แต่ลดลง 6.8% ในเดือนก.ค.
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (29 ก.ค.) อยู่ที่ 3.78 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 36.25 แข็งค่าจากสัปดาห์ก่อน ให้กรอบเคลื่อนไหววันนี้ 36.10-36.35
- “ทีดีอาร์ไอ” ค้านควบรวม “ทรู-ดีแทค” หวั่นค่าบริการพุ่ง 20-30% หากเหลือผู้ให้บริการแค่ 2 ราย ชี้”ไม่หนุน” ไทยสู่เศรษฐกิจดิจิทัล ขณะที่นักวิชาการเศรษฐศาสตร์ยังมองบวกควบรวมได้ประโยชน์ Economy of scale ด้าน “ภาคประชาชน-ผู้บริโภค” เสียงแข็งค้านดีล ชี้หากสำเร็จจำกัดทางเลือกประชาชน บีบให้ใช้บริการ จากรายใหญ่กินส่วนแบ่งเกิน 50% ซัด กสทช.ควรหนุนให้เกิดรายใหม่ จี้ตอบคำถามให้ได้ทำไมเอื้อประโยชน์เอกชน หากปล่อยควบรวม ผ่านฉลุย ทั้งที่อำนาจควรเน้นให้เช่าใช้เน็ตเวิร์ก ระหว่างกันแทนการลงทุนซ้ำซ้อน
- กกพ.ตัดใจขึ้นค่าไฟผันแปร ก.ย.-ธ.ค.2565 ช่วย กฟผ.ลดหนี้แบบพบครึ่งทางขึ้น 68.66 สตางค์ ปรับไม่ถึง 5-6 บาท/หน่วย ส่งผล กฟผ.ต้องแบกหนี้ 8 หมื่นล้าน อนาคตต้องปรับขึ้นอีก 3 งวด งวดละ 40 สตางค์ ถึงปี 2567 ล้างหนี้ กฟผ.อ้างรับภาระแทนประชาชน สภาเกษตร ชี้รายย่อยแบกค่าไฟอ่วม วอนรัฐต่อมาตรการช่วยลดค่าไฟ
- ตลาดเงินประเมินแนวโน้มเงินบาทไตรมาส 3 มีโอกาสทะลุ 38 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ผลนโยบายการเงินไทยช้ากว่าสหรัฐ ชี้หากสัญญาณเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวลื่นไหล ปลายปีอาจเห็นบาทแข็งกลับมาแตะ 35 บาทต่อดอลลาร์ได้หลังครึ่งปีแรกอ่อนค่าแล้ว 8.79%
- ผู้ได้รับผลกระทบปรากฎการณ์ Zipmex เร่งระดมพลยื่นร้องเรียน “ก.ล.ต.-ดีเอสไอ-สอท.” แสดงให้เห็นจำนวนและมูลค่าความเสียหายที่แท้จริง เพื่อให้เร่งดำเนินการบังคับคืนเงินสด-สินทรัพย์ดิจิทัลคืน หลังรายย่อยขาดความเชื่อมั่น เชื่อไม่สามารถเปิดฝาก/ถอนสินทรัพย์ดิจิทัลได้ตามเดดไลน์ 3 วัน
- สิงหา ลุ้นระทึกปม 8 ปีนายกฯ เริ่มระอุ “พรรคธรรมนัส” ร่วมเคลื่อนไหวกับองค์กรต่างๆ จี้ฝ่ายค้านเร่งยื่นศาล รธน.ตีความให้ได้ข้อยุติก่อน 23 ส.ค. “99 พลเมือง” ชี้ “ประยุทธ์” ขาดความชอบธรรม หากไม่ลาออกจะเกิดความขัดแย้งรุนแรง “ธีระชัย-จตุพร-ทนายนกเขา” ร่วมเขย่าหลังเที่ยงคืน 23 ส.ค.ถ้ายังอยู่ก็เป็น “นายกฯ เถื่อน” ปชช.แจ้งความได้ทั่วประเทศ ขู่นำ ปชช.ใช้อำนาจอธิปไตยทางตรงทันที “พีระพันธุ์” ตอบรับนั่งหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ “เอกณัฏ” เลขาธิการฯ ยันไม่ใช่สาขาพปชร. “ประดิษฐ์” แจงร่วม ภท. มั่นใจเป็นรัฐบาลอีก เผยพรรคใหม่เกิดยาก
หุ้นเด่นวันนี้
- MAJOR (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้า 24 บาท เป็นหุ้นธีมเปิดเมืองที่ราคายัง Laggard โดย YTD ราคาหุ้นในกลุ่มเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10-20% ขณะที่ MAJOR เพิ่มขึ้นเพียง 3% ขณะที่วันนี้มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวกระแสภาพยนตร์ บุบเพสันนิวาส 2 แรงเกินคาดทำรายได้ 3 วัน 134 ล้านบาท
- AOT (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 76.00 บาท แนวโน้มครึ่งหลังปี 64/65 คาดเห็นโมเมนตัมการฟื้นตัวต่อเนื่องหลังภาครัฐผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศยกเลิก Test & Go และไม่ต้องตรวจ RT-PCR ช่วยเพิ่มความสะดวก ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดโอมิครอนดีกว่าคาดจากการฉีดวัคซีนทั่วถึง ส่งผลบวกต่ออุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยว จำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารรวมในช่วงไตรมาส 3 งวดปี 64/65 (เม.ย.-มิ.ย.) เพิ่มขึ้น +18%QoQ, +114%YoY และ +51%QoQ, +316%YoY ขณะที่ไตรมาส 4 งวดปี 64/65 (QTD วันที่ 1-23 ก.ค.) +261%YoY และ +1,151%YoY ตามลำดับ
- PLUS (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 7.00 บาท คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/65 ที่ 69 ลบ. +48% Q-Q, +210% Y-Y ทำจุดสูงสุดใหม่จากคำสั่งซื้อฟื้นหลังปัญหาสายเรือคลี่คลาย และขยายเข้าไปในสาขาของ Walmart เพิ่มเป็น 49% จาก 38% ของสาขา Walmart ทั้งหมด ต้นทุนมะพร้าวอ่อนตัวลง ต้นทุนบรรจุภัณฑ์ทรงตัวเพราะล็อกราคาถึงสิ้นปีแล้ว แต่กำไรจะอ่อนตัวลงใน 2H22 ตามฤดูกาล กำไรที่เราคาดปีนี้ +114% Y-Y มี upside 10-15
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ส.ค. 65)
Tags: lifestyle, กิติชาญ ศิริสุขอาชา, ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี, หุ้นไทย