
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (28 ก.ค.) หลังมีรายงานว่าเศรษฐกิจสหรัฐหดตัวลงติดต่อกัน 2 ไตรมาส ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 84 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 96.42 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 52 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 107.14 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลง หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2 โดยระบุว่า GDP หดตัว 0.9% หลังจากที่หดตัว 1.6% ในไตรมาส 1 ซึ่งการที่ GDP หดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน ทำให้สหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย “ทางเทคนิค” โดยเข้าเกณฑ์นิยามของการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
อย่างไรก็ดี ตลาดน้ำมันได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน จากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 4.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 800,000 บาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 3.3 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 800,000 บาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 200,000 บาร์เรล
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากภาวะตึงตัวในตลาด รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่ายุโรปจะหันมาใช้น้ำมันดิบมากขึ้น หลังรัสเซียลดการส่งก๊าซผ่านท่อส่ง Nord Stream 1
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ก.ค. 65)
Tags: lifestyle, น้ำมัน WTI, น้ำมันดิบ, ราคาน้ำมัน