นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฎิบัติการ บมจ.แสนสิริ (SIRI) เปิดเผยว่า บริษัทจะกลับมารุกตลาดคอนโดมิเนียมอีกครั้งในครึ่งปีหลัง โดยส่งแบรนด์ The Base, The Muve และ Condo Me ที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าหลากหลายระดับ ในทำเลใกล้เมือง ใกล้แหล่งงาน และใกล้แหล่งท่องเที่ยว เนื่องจากเชื่อว่ากลุ่มคนรุ่นใหม่เริ่มกลับมามองหาซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อรองรับกับการเดินทางไปทำงานและใช้ชีวิตในเมือง รวมถึงกลุ่มลูกค้าต่างชาติสามารถเข้ามาซื้อคอนโดมิเนียมในประเทศเมื่อมีการเปิดประเทศเต็มรูปแบบ
แผนงานของ SIRI ในช่วงครึ่งปีหลังจะมีการเปิดโครงการใหม่อีก 31 โครงการ มูลค่า 3.12 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 16 โครงการ และคอนโดมิเนียม 15 โครงการ ซึ่งจะทยอยเปิดในไตรมาส 3/65 ต่อเนื่องถึงไตรมาส 4/65 เพื่อสร้างยอดขายเข้ามาให้กับบริษัทในปีนี้ให้ได้ตามเป้าหมาย 3.5 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ ในครึ่งปีแรกบริษัทสามารถทำยอดขายได้แล้ว 1.83 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 52% ของเป้าหมายทั้งปีนี้ จากความสำเร็จในการเดินหน้าวิสัยทัศน์ “STEP BEYOND” เติบโตแข็งแกร่งยั่งยืนในทุกมิติภายใต้ 3 กุญแจสำคัญขับเคลื่อนองค์กร PROFIT- PEOPLE- PLANET
ขณะที่แนวโน้มของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทยังมองว่ายังเห็นทิศทางที่ดีอย่างต่อเนื่องตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และการกลับมาเปิดประเทศ โดยที่กลุ่มลูกค้าในประเทศที่มีรายระดับกลาง-บน ยังเป็นกลุ่มที่มีการมองหาซื้อที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาจะเริ่มเห็นการเร่งหาซื้อมากขึ้นจากภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ราคาที่อยู่อาศัยมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น จึงตัดสินใจเร่งซื้อก่อนที่ราคาจะปรับขึ้น โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยแนวราบที่ยังเห็นการเติบโตต่อเนื่องตามพฤติกรรมการอยู่อาศัยที่เปลี่ยนไป
ด้านยอดโอนของบริษัทในปี 65 ยังคงมั่นใจว่าจะทำได้ตามเป้าหมาย 3.5 หมื่นล้านบาท หลังจากครึ่งปีแรกมียอดโอนแล้ว 1.4 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 40% ของเป้าทั้งปี และครึ่งปีหลังนี้ยังคงมีการทยอยโอนโครงการอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบัน บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ทั้งหมด 2.03 หมื่นล้านบาท จะโอนเข้ามาในช่วงครึ่งปีหลัง 1.05 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นคอนโดมิเนียมที่มีกำหนดแล้วเสร็จเตรียมทยอยโอนในไตรมาส 4/65 ได้แก่ Condo Me นวนคร เฟส2, The Base เพชรบุรีทองหล่อ, XT พญาไท ที่เตรียมโอนในเดือนต.ค. 65 และ The Muve เกษตร ที่เตรียมโอนในเดือนธ.ค. 65 และยังมีการทยอยขายโครงการที่พร้อมอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะมีการทยอยขายออกไปเพื่อสร้างยอดโอนกลับมามูลค่ากว่า 1.05 หมื่นล้านบาท
“จากความมุ่งมั่นว่าแสนสิริต้องการเป็นองค์กรที่ยั่งยืนในทุกมิติ เพราะธุรกิจปัจจุบันจะมุ่งเน้นแค่ผลกำไรไม่ได้ ต้องสร้างสมดุลของทั้ง PROFIT – PEOPLE และ PLANET ให้เติบโตก้าวหน้าไปด้วยกัน เพราะแสนสิริต้องการให้ธุรกิจเติบโตควบคู่กับสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นรวมถึงคุณภาพชีวิตของคนและสังคมที่จะก้าวไปพร้อมกัน ทั้งหมดนี้จึงจะเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในใจลูกค้าได้”
นายอุทัย กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ก.ค. 65)
Tags: SIRI, คอนโด, ที่อยู่อาศัย, หุ้นไทย, อสังหาริมทรัพย์, อุทัย อุทัยแสงสุข, แสนสิริ