CK บวก 1.46% คาดกำไร Q2/65 โตรับส่วนแบ่งกำไรเพิ่ม-H2 ลุ้นรับงานหลวงพระบาง

CK ปรับขึ้น 1.46% หรือเพิ่มขึ้น 0.30 บาท มาที่ 20.80 บาท เมื่อเวลา 11.37 น.จากราคาเปิด 20.60 บาท ราคาสูงสุด 20.90 บาท และราคาต่ำสุด 20.60 บาท

บล.เคทีบีเอสที ประเมิน บมจ.ช.การช่าง (CK) มีกำไรปกติในไตรมาส 2/65 โตสูงจากบริษัทร่วมและเงินปันผล โดยประเมินกำไรปกติที่ 348 ล้านบาท (+99% YoY, +187% QoQ) หนุนโดย 1) ส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วมอยู่ที่ 471 ล้านบาท (+54% YoY, +462% QoQ) โดย บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) ได้ปัจจัยหนุนจากการทยอยฟื้นตัวของผู้ใช้บริการ ขณะที่ บมจ.ซีเค พาวเวอร์ (CKP) ได้อานิสงส์ปัจจัยฤดูกาลและฝนมาเร็วขึ้น และ 2) รายได้เงินปันผล บมจ.ทีทีดับบลิว (TTW) จำนวน 232 ล้านบาท ซึ่งโดยปกติจะบันทึกในไตรมาส 2 และ 3 ของปี

นอกเหนือจากปัจจัยเหล่านี้ ประเมินรายได้ก่อสร้างไตรมาส 2/65 อยู่ที่ 3.3 พันล้านบาท (+2% YoY, -54% QoQ) เพิ่มขึ้นเล็กน้อย YoY หนุนโดยงานโดยรวมที่ยัง progress ได้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะงานทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง สายสีส้มตะวันออก รพ.จุฬาภรณ์ เป็นต้น

แต่การลดลง QoQ โดยหลักเนื่องจากในไตรมาส 1/65 บริษัทมีการรับรู้รายได้ pre-construction โครงการหลวงพระบางราว 3.5 พันล้านบาท หากไม่รวมรายได้ก้อนดังกล่าว คาดลดลง -8% QoQ สาเหตุหลักจากปัจจัยทางฤดูกาลจากช่วงวันหยุดยาว

ประเมิน backlog ของ CK ณ สิ้นไตรมาส 2/65 อยู่ที่ 5.8 หมื่นล้านบาท ขณะที่บริษัทมีงานอยู่ระหว่างรอลงนามสัญญาในไตรมาส 3/65 มูลค่า 3.2 พันล้านบาท ได้แก่ โครงการทางระบายน้าบางบาล-บางไทร สัญญา 4 ด้านการประมูลโครงการสายสีส้ม แม้เรามองว่ามีโอกาสล่าช้าจากกระบวนการทางกฎหมายที่อาจยืดเยื้อนานกว่าคาด แต่เรายังไม่ได้รวมโครงการดังกล่าว ทำให้ไม่กระทบประมาณการ

ทั้งนี้ ครึ่งหลังปี 65 ยังมีโครงการสำคัญที่น่าติดตาม ได้แก่ 1) การลงนามสัญญา EPC โครงการหลวงพระบาง มูลค่า 8 หมื่นล้านบาท และ 2) การประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง มูลค่า 2 หมื่นล้านบาท

แนวโน้มครึ่งหลังปี 65 โตต่อเนื่อง เราคงประมาณการกำไรปกติทั้งปีนี้ 1 พันล้านบาท ฟื้นตัวสูงจากปี 64 ที่ 100 ล้านบาท สำหรับครึ่งปีหลังปีประเมินกำไรปกติดีขึ้นต่อเนื่องหนุนโดย 1) งานโครงการใหม่ที่จะทยอยเห็น progress มากขึ้น ได้แก่ ทางคู่เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของและสายสีม่วงใต้ ซึ่งเริ่มงานอย่างเป็นทางการตั้งแต่ เม.ย.ปัจจุบันอยู่ในเฟสของการออกแบบ และ 2) ผลการดำเนินงานบริษัทร่วมเร่งตัวขึ้น โดยเฉพาะ BEM ได้อานิสงส์จากการกลับมาใช้ชีวิตปกติมากขึ้นและการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว

คงคำแนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมาย 25.60 บาท อิง SOTP เรามองว่า CK ยังมี catalyst เฉพาะตัวจากความคืบหน้าโครงการหลวงพระบาง คาดจะลงนามสัญญา EPC ในครึ่งหลังปี 65 สำหรับ key risks ได้แก่ การประมูลและความคืบหน้าโครงการที่ล่าช้าและต้นทุนวัสดุที่ผันผวนมากกว่าคาด

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ก.ค. 65)

Tags: , ,
Back to Top