นายสาลวิท สุวิพร ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนวัตกรรมธุรกิจ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ในฐานะ Creative Innovation Strategist กล่าวว่า สยามดิสคัฟเวอรี่ตอบรับกระแสความสนใจของเหล่าคอมมูนิตี้เกมเมอร์และผู้สนใจท่องโลก Metaverse ด้วยการสร้างโปรเจ็คต์ “Fight for the Future ” ร่วมกับพันธมิตรระดับโลก อย่าง NIMIT Studio, Cryptomind และ Fairtex ผสมผสานโลกจริงและโลกดิจิทัล ในแบบ O2O บนพื้นที่ Future Lab ของสยามดิสคัฟเวอรี่ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 ก.ค.-31 ส.ค.65 ให้ลูกค้าสามารถเข้ามาร่วมสนุกได้ ทั้งการสร้างและแต่งตัว Avatar ของตัวเอง เพื่อเข้าร่วมทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่แลนด์ Jinta Valley บน The sandbox ที่สร้างสรรค์โดยฝีมือคนไทย
“พื้นที่ Future Lab บริเวณสยามดิสคัฟเวอรี่ มียอดผู้ใช้บริการในแต่ละวันเป็นจำนวนมาก เราเล็งเห็นโอกาสในพื้นที่ดังกล่าวจึงต้องการเชื่อมโลกออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกัน เรามีพาร์ทเนอร์อย่าง Cryptomind ซึ่งมีที่ดินใน The sandbox อยู่แล้ว เรามี Nimit Studio ที่มาร่วมพัฒนา Jinta valley หรือหมู่บ้านจินตะ นอกจากนี้เรายังชูเอกลักษณ์ของมวยไทยด้วยการร่วมกับ Fairtex นำเสนอชุดมวยไทยแต่งตัวให้เหล่า Avatar และในอนาคต เรายังคงมองหาพาร์ทเนอร์รายอื่น ๆ ที่จะเข้ามาทำงานร่วมกันในโปรเจคท์นี้” นายสาลวิทกล่าว
ด้านนายชยารพ บุรพัฒน์ นักสร้างสรรค์และผู้ก่อตั้ง NIMIT Studio (นิมิต สตูดิโอ) กล่าวว่า NIMIT ในฐานะ Multiverse Builder Studio และ Official Partner Studio ของ The Sandbox หนึ่งในแพลตฟอร์มเมตาเวิร์สชื่อดัง ภูมิใจนำเสนอแลนด์ในโลกดิจิทัลที่มีชื่อว่า “Jinta Valley” หรือหมู่บ้านจินตะ หนึ่งในแลนด์บน The Sandbox Alpha Season 3 ซึ่ง Jinta Valley เป็นพื้นที่บอกเล่าเรื่องราวการต่อสู้เพื่อแสดงจุดยืนทางสังคม ทั้งยังถ่ายทอดความเป็นไทยผ่านโลกดิจิทัลด้วยการออกแบบองค์รวมอย่างผสมผสานให้เกิดประสบการณ์ที่แปลกใหม่
นิมิต สตูดิโอ ได้สร้างพื้นที่ บนชั้น 4 สยามดิสคัฟเวอรี่ ให้เป็น Fight for The Future – Hope is Dope : Episode Zero พื้นที่สำหรับ NFT Creative Placemaking Space ร่วมกับ Cryptomind เพื่อรวบรวมนักสร้างสรรค์หลายแขนง ทั้งศิลปินภาพวาด NFT นักโฆษณา นักวาดภาพประกอบ นักดนตรี คอมมูนิตี้คริปโต และชุมชนนักสะสมภาพวาด PFP (Profile Picture) ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวนำเสนอโลกศิลปะภายใต้แนวคิด Fight for ทั้ง 5 ประกอบไปด้วย Fight for Love, Fight for Nature, Fight for Style, Fight for Peace, และ Fight for Fun (Creativity and Community)
นอกจากนี้ยังสร้างโซนสำหรับเกมเมอร์ส มีคอมพิวเตอร์ให้บริการบริเวณชั้น 4 เพื่อให้ผู้เล่นสัมผัสประสบการณ์รูปแบบเกมส์ Voxel และทำภารกิจ อาทิ Game station สำหรับเข้าแลนด์ Jinta Valley บนแพลตฟอร์ม The Sandbox, NFT Showcase ในรูปแบบ Augmentation Reality (AR), On Site PFP Community Immersive Experience, และ Avatar Customization ภายใต้ธีมต่าง ๆ อีกด้วย
ด้านนายสัญชัย ปอปลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คริปโตมายด์ แอดไวเซอรี่ จำกัด กล่าวว่า โปรเจ็คต์ดังกล่าวสร้างปรากฎการณ์ที่เหนือชั้นให้กับสยามดิสคัฟเวอรี่ ซึ่งบริษัทได้ร่วมกับ Nimit Studio ทำประเทศดิจิทัล NIMIT2050 บน พื้นที่ดินดิจิทัล The Sandbox นอกจากนี้ยังร่วมกับนิมิต สตูดิโอจัด Talks ในหัวข้อเกี่ยวกับ Future of Artists และ Future of Metaverse and Investment ที่รวบรวมผู้มีชื่อเสียงมากมายในวงการศิลปะ และวงการสินทรัพย์ดิจิตัลเพื่อให้ความรู้ในหัวข้อเกี่ยวกับถอดรหัสความสำเร็จของศิลปิน, NFT, อัตลักษณ์ของ Digital Nation, และการลงทุนใน Metaverse และอีกมากมายในวันที่ 30-31 ก.ค.65 นี้
นายชาโณ เหนือเมฆิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Fairtex Equipment Co., Ltd. หรือ Fairtex กล่าวว่า เราได้ร่วมสนับสนุนโปรเจ็คต์ Fight for the Future เพื่อเชื่อมโลกกีฬาไทยบ๊อกซ์ซิ่งจากเวทีมวยจริงกับสังเวียนบนโลกดิจิทัล เริ่มด้วยการนำเสนอชุดมวยไทยบนโลก The Sandbox ให้เหล่าอวตาร์ได้เลือกใช้แต่งตัวในแบบเพอร์ซัลนอล
ขณะเดียวกันก็สามารถเลือกซื้อชุดมวยที่นำดีไซน์จาก จักรกฤษณ์ อนันตกุล หรือ HelloiamJK ศิลปินกราฟฟิกดีไซเนอร์ไทยชื่อดัง ที่มาร่วมออกแบบคอลเลคชั่นพิเศษสำหรับงานนี้โดยเฉพาะ ที่สามารถหาซื้อที่ได้ภายในงานนี้เท่านั้น และยังได้ design ชุด collection พิเศษ ให้กับ Avatar นอกจากนี้ยังมี เมธัส เทพนวล หรือ Sun smile club มาร่วมทำ customize อีกด้วย และยังมี Punching Speed Gaming ที่เปิดเวทีให้สนุกกับการชกมวยในรูปแบบใหม่ ซึ่งคาดว่าจะถูกใจทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ก.ค. 65)
Tags: คริปโตมายด์ แอดไวเซอรี่, จักรกฤษณ์ อนันตกุล, ชยารพ บุรพัฒน์, สยามดิสคัฟเวอรี่, สยามพิวรรธน์, สัญชัย ปอปลี, สาลวิท สุวิพร