นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 36.70 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจาก ปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 36.94 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามทิศทางตลาดโลก เนื่องดอลลาร์ปรับตัวอ่อนค่า หลังจากธนาคารกลาง ยุโรป (อีซีบี) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 11 ปี ที่ 0.50% มาอยู่ที่ 0% ขณะที่ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ ออกมาสูงเกินคาดกดดันให้บอนด์ยีลด์ปรับตัวลดลง
“บาทกลับมาแข็งค่าจากเย็นวานนี้ตามตลาดโลก และยังดีที่ราคาทองปรับตัวขึ้นมา ไม่เช่นนั้นจะมีแรงนำเข้ากดดันให้บาทอ่อน ค่าขึ้นไปอีก”
นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 36.70 – 36.90 บาท/ดอลลาร์
THAI BAHT FIX 3M (21 ก.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.59821% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.84551%
* ปัจจัยสำคัญ
– เงินเยนอยู่ที่ระดับ 137.29 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 138.71 เยน/ดอลลาร์
– เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0205 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0185 ดอลลาร์/ยูโร
– อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 36.784 บาท/ดอลลาร์
– กระทรวงสาธารณสุข รายงานพบผู้ป่วยโรคฝีดาษวานร (ฝีดาษลิง) ยืนยันเป็นรายแรกของประเทศไทยที่จังหวัดภูเก็ต เป็น ชายวัย 27 ปี สัญชาติไนจีเรีย
– รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาจะเสนอของบประมาณจากรัฐบาลเพิ่มเติม 2,000 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในปี 2565 แบ่งเป็น ก้อนแรก 1,000 ล้านบาท ภายใต้มาตรการ Booster Shot (บูสเตอร์ช็อต) เสมือนวัคซีน เข็มกระตุ้นให้รายได้จากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นไปตามเป้า 1.5 ล้านล้านบาท จากล่าสุดประเมินว่าจะได้ 1.2 ล้านล้านบาท จึงคิด ว่าคุ้มค่ามากที่รัฐบาลจะให้งบ 1,000 ล้านบาท มาแลกกับรายได้เข้าประเทศเพิ่มขึ้น 300,000 ล้านบาท เท่ากับได้เงินเพิ่มขึ้น 150 เท่า และผลักดันนักท่องเที่ยวต่างชาติจากเป้าเดิม 10 ล้านคน ให้ได้ถึง 12 ล้านคน
– ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2543 เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ
– ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (21 ก.ค.) หลังจาก ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงถึง 0.50% เพื่อสกัดเงินเฟ้อ
– สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (21 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และ จากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ
– กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 7,000 ราย สู่ระดับ 251,000 รายใน สัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2564 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 240,000 ราย
– ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตในภูมิภาคมิด-แอตแลนติก ดิ่งลงสู่ระดับ -12.3 ในเดือนก.ค. หลังจากแตะระดับ -3.3 ในเดือนมิ.ย. โดยได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของการจ้างงานและคำสั่งซื้อใหม่
– นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 30.9% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% ในการประชุมวันที่ 26-27 ก.ค. และ ให้น้ำหนัก 69.1% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75%
– นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผย GDP ไตรมาส 2 ของสหรัฐในสัปดาห์หน้าเช่นกัน ขณะที่เฟดสาขาแอตแลนตาเปิดเผยแบบ จำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดซึ่งแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 1.6% ในไตรมาส 2 จากเดิมที่คาดการณ์ในวันที่ 15 ก.ค.ว่ามี แนวโน้มหดตัว 1.5%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ก.ค. 65)
Tags: ค่าเงินบาท, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, เงินบาท