น.ส.ชนก จันทาทอง ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย กล่าวอภิปรายไม่ไว้วางใจนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในประเด็นจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยระบุว่านายชัยวุฒิ ประพฤติตัวขัดต่อประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมือง พ.ศ. 2564 ซึ่งเป็นประมวลจริยธรรมที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นผู้ออกประกาศดังกล่าวขึ้น เพราะมุ่งหวังจะให้ข้าราชการการเมืองเป็นแบบอย่างที่ดี ประพฤติตนอยู่ในกรอบคุณธรรม จริยธรรม และศีลธรรมอันดีงาม
น.ส.ชนก กล่าวว่า นายชัยวุฒิ มีพฤติกรรมที่ขัดต่อประมวลจริยธรรมฯ ดังกล่าว ทั้งในเรื่องการล่วงละเมิด คุกคามทางเพศ ทำให้ผู้ถูกกระทำได้รับความเดือดร้อนเสียหาย และกระทบกับการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งถือว่าเป็นการผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นรัฐมนตรี เพราะมีพฤติกรรมที่เป็นแบบอย่างที่ไม่ดี โดยบางช่วงบางตอนได้มีการกล่าวอ้างไปถึงพฤติกรรมของนายชัยวุฒิ ที่เป็นการทำร้ายจิตใจผู้เป็นภริยาอย่างแสนสาหัส
โดยในระหว่างนี้ได้มี ส.ส.หญิง จากพรรคพลังประชารัฐ ลุกขึ้นประท้วง เนื่องจากเห็นว่าการอภิปรายของ น.ส.ชนก อาจจะมีความไม่เหมาะสม เนื่องจากมองว่าเป็นเรื่องส่วนตัวภายในครอบครัว เป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อน สร้างความเสียหาย คำพูดในสภาฯ จะถูกบันทึกอยู่ในประวัติศาสตร์ และไม่เห็นด้วยในการนำภาพบุคคลที่ 3 ขึ้นมาประกอบการอภิปราย โดยขอให้ประธานในที่ประชุมวินิจฉัยถึงความไม่เหมาะสมในประเด็นการอภิปรายนี้
ขณะที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วง และเห็นว่าประเด็นที่ น.ส.ชนก พูดอยู่นี้ บรรจุอยู่ในญัตติการอภิปรายที่ได้ยื่นต่อสภาฯ ไว้แล้ว เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง โดยมีเรื่องชู้สาว และได้สร้างความเสียหายต่อระบบราชการในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภายในกระทรวงดีอีเอส ซึ่งมีบุคคลดังกล่าวเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างจริง
ด้านนายศุภชัย โพธิสุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ซึ่งทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมในขณะนั้น กล่าวว่า ข้ออภิปรายของ น.ส.ชนก อยู่ในญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ การพูดถึงพฤติกรรมที่ทำให้เกิดการเสื่อมเสียต่อการดำรงตำแหน่ง สามารถพูดได้ แต่เตือนว่าอย่าพาดพิงครอบครัว ภริยา หรือบุคคลที่ 3
หลังจากนั้นนายชัยวุฒิ ได้ลุกขึ้นชี้แจงว่าจริงๆ แล้วอยากให้ฝ่ายค้านเปิดเผยข้อมูลออกมาให้หมด และไม่กลัวเพราะไม่ใช่ความจริง และมองว่าการอภิปรายในประเด็นนี้แสดงให้เห็นถึงมาตรฐานที่ต่ำ และเชื่อว่าผู้ที่ให้ข้อมูลแก่ น.ส.ชนก มาอภิปรายนั้น คงจะไม่ได้หวังดี เพราะจะทำให้เป็นภาพไม่ดีติดตัวแล้ว ยังมีคดีหมิ่นประมาทติดตัวด้วย
“ไปฟังคนนู้นคนนี้พูดมา แล้วมโนว่าเป็นแบบนั้น แบบนี้ แล้วเอามาพูดในสภา ไม่มีข้อเท็จจริง สุดท้ายก็ต้องไปสู้กันที่ศาล ไม่ใช่ผมฟ้อง แต่คนที่เขาเสียหายจะเป็นคนฟ้อง บอกเลยว่าคนที่เอาข้อมูลนี้ให้ท่านพูด ไม่ได้หวังดีกับท่านแน่นอน เพราะทำให้ภาพท่านดูไม่ดี และจะมีคดีติดตัวแน่นอน ถ้าไม่รู้จักผม อย่าพูดเรื่องส่วนตัวของผม เที่ยวไปฟังคนนู้นคนนี้พูด มันไม่ใช่” นายชัยวุฒิ กล่าว
พร้อมยืนยันว่า บุคคลที่ 3 ที่ถูกกล่าวอ้างถึง ไม่ว่าจะเป็นทีมงาน ทีมที่ปรึกษาที่มาช่วยทำงาน และมีประสบการณ์ทำงานด้านต่างๆ เช่น ไอที เทเลคอม กฎหมาย ซึ่งไม่ได้เป็นข้อเทิจจริงว่าจะเป็นความเสียหายต่อการทำงานของกระทรวง ถ้าหากฝ่ายค้านเห็นว่ามีความผิดจริงควรไปฟ้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ก.ค. 65)
Tags: กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, การเมือง, จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์, ชนก จันทาทอง, ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์, พรรคเพื่อไทย, ศุภชัย โพธิสุ, อภิปรายไม่ไว้วางใจ