ITC คาดปีนี้โตต่อเนื่องตามเทรนด์สัตว์เลี้ยง-บาทอ่อนหนุน,จ่อออกกว่า 10 ผลิตภัณฑ์

นายพิชิตชัย วงศ์ปิยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น (ITC) เปิดเผยว่า บริษัทคาดผลประกอบการปี 65 จะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากทิศทางอาหารสัตว์เลี้ยงที่มีการเติบโตขึ้นทั่วโลก หลังจากประชากรทั่วโลกมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้ชีวิต โดยมีลูกน้อยลงและหันมาเลี้ยงสัตว์เป็นเพื่อนมากขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนให้ความต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าภาพรวมตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงจะมีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 7% ในช่วง 5 ปีต่อจากนี้

นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับปัจจัยหนุนจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันบริษัทยืนยันว่าไม่ได้มีผลกระทบจากราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากได้ร่วมบริหารจัดการต้นทุนกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากสัดส่วนรายได้จากตลาดสหรัฐ 45% สหภาพยุโรป 19% ญีปุ่น 15% และ อื่น 20% ส่วนในประเทศไทยมีเพียง 1% โดยหลังจากนี้บริษัทจะเข้าไปเน้นตลาดประเทศจีนมากขึ้นเนื่องจากมีทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

สำหรับช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทได้เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างน้อย 10 ผลิตภัณฑ์ จากปัจจุบันบริษัทมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายรวมกว่า 4,600 ผลิตภัณฑ์ โดยบริษัทมีความชำนาญและความสามารถในการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกที่ผลิตจากเนื้อปลา ซึ่งมีกระบวนการในการผลิตที่ยากโดยเฉพาะในการที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกมีรูปร่างหน้าตา (Appearance) ที่ดีและน่ารับประทาน โดยเน้นการให้คุณค่าทางโภชนาการอย่างครบถ้วน และ น่ารับประทานเหมือนอาหารสำหรับมนุษย์ทั่วไปมากยิ่งขึ้น

นายนคร นิรุตตินานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านปฎิบัติการ เปิดเผยว่า ปัจจุบันดำเนินการผลิตสินค้าที่โรงงาน 2 แห่งในจังหวัดสมุทรสาครและสงขลา ที่มีกำลังการผลิตรวม 172,786 ตัน/ปี พร้อมด้วยคลังสินค้าทันสมัยที่มีพื้นที่จัดเก็บรวม 68,770 พาเลท โดยนำระบบการผลิตแบบอัตโนมัติมาใช้ในหลายขั้นตอน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการและควบคุมต้นทุน

นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งเน้นการเลือกแหล่งวัตถุดิบที่น่าเชื่อถือ โดยปลาทูน่าซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 43-49 % ของมูลค่าการสั่งซื้อวัตถุดิบรวม บริษัทได้รับประโยชน์จากการอยู่ในกลุ่มไทยยูเนี่ยนซึ่งเป็นผู้ผลิตปลาทูน่ารายใหญ่ของโลก สำหรับไก่ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบสำคัญ ก็ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการที่ประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้ผลิตเนื้อไก่รายใหญ่ของโลก

ทั้งนี้ ITC อยู่ระหว่างยื่นขออนุญาตเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) โดยมี บล.ฟินันเซีย ไซรัส เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ซึ่งจะเสนอขายจำนวนไม่เกิน 660 ล้านหุ้น ประกอบด้วย หุ้นสามัญเพิ่มทุน 600 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย บมจ.ไทยยูเนี่ยน (TU) จำนวนไม่เกิน 60 ล้านหุ้น

บริษัทมีวัตถุประสงค์ในการระดมทุนเพื่อลงทุนในการปรับปรุงโรงงานด้วยระบบและเครื่องจักรอัตโนมัติเพื่อขยายกำลังการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ขยายระบบโครงสร้างพื้นฐานสนับสนุนการผลิต ลงทุนในระบบคลังสินค้าและติดฉลากอัตโนมัติ รวมถึงต่อยอดศักยภาพด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ขยายธุรกิจ ชำระคืนเงินกู้ยืม และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนให้กับบริษัทฯ

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ก.ค. 65)

Tags: , , , ,
Back to Top